รวบผัวเมียออกตระเวนลักทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้าทั่วกรุงเทพและปริมณฑล
เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก.สส.ฯ ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.ปณวัฒน์ จอกสุวรรณ์ (ชุดปฏิบัติการที่ 3/4 ) ดำเนินการ
เจ้าหน้าที่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. จับกุม
1. นายอลงกรณ์ อายุ 34 ปี ภูมิลำเนา แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 713/2567 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2567 (สน.ยานนาวา )
2. น.ส.ชนากานต์ อายุ 27 ปี ภูมิลำเนา ต.ธารปราสาท อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันลักทรัพย์โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม
ตรวจสอบระบบ CRIMES ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่า นายอลงกรณ์ฯ มีหมายจับค้างในระบบอีก 1 หมายคือ หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.583/2567 ลงวันที่ 4 กรกฎาคม 67 (สน.บางรัก) ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยร่วมกระทำความผิดดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป
และจับกุม น.ส.ชนากานต์ อายุ 27 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 715/2567 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2567 (สน.ยานนาวา) ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันลักทรัพย์โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม
ตรวจสอบระบบ CRIMES ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่า มีหมายจับค้างในระบบอีก 1 หมายคือ หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.584/2567 ลงวันที่ 4 กรกฎาคม 67 (สน.บางรัก) ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยร่วมกระทำความผิดดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป สถานที่จับกุม หน้าเพิงพักไม่มีเลขที่ ริมทางรถไฟ ถ.สุทธาวาส แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ จากการสืบสวนทราบว่าได้มีการก่อเหตุลักทรัพย์ภายในร้านสะดวกซื้อในพื้นที่ สน.ยานนาวา สน.บางรัก สน.ทุ่งมหาเมฆ และพื้นที่ใกล้เคียง โดย สืบนครบาล กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ร่วมกับ สน.ในพื้นที่ ตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนสืบทราบกลุ่มกันร้ายคือ 1.นายอลงกรณ์ และ 2.น.ส.ชนากานต์ ซึ่งเป็นผัวเมียกัน(ทราบภายหลัง) จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ส่งให้พนักงานสอบสวนเพื่อขออนุญาตศาลออกหมายจับ
กระทั่ง ต่อมาวันนี้ (21 ส.ค. 67) เวลาประมาณ 18.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้พบบุคคลต้องสงสัยตำหนิรูปพรรณคล้ายผู้ต้องหา พักเดินอยู่ใกล้เพิงพักไม่มีเลขที่ริมทางรถไฟ จากนั้นได้เดินออกมาบริเวณริมทางรถไฟ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงประจำตัวข้าราชการตำรวจให้บุคคลดังกล่าว เพื่อขอทำการตรวจสอบ
ผลการตรวจสอบพบว่าเป็นตัวผู้ต้องหาจริง ผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงหมายจับให้ ผู้ต้องหา ตรวจดู ผู้ต้องหาดูและอ่านแล้ว ยอมรับว่าตนเองเป็นบุคคลคนเดียวกับบุคคลตามหมายจับจริง และไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา แจ้งสิทธิให้ผู้ถูกจับทราบ
ผู้ถูกจับรับทราบข้อกล่าวหา และสิทธิดีแล้ว ขอให้การรับสารภาพตลอด ข้อกล่าวหาในชั้นจับกุมโดยผู้ถูกจับกุมไม่ประสงค์จะพบและปรึกษาทนายความในชั้นจับกุม และเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การรับสารภาพ รับว่าได้ก่อเหตุหลายครั้งจนไม่ทราบว่าก่อเหตุที่ใดบ้าง เท่าที่สืบทราบก่อเหตุ 4 ครั้ง ในช่วงวันที่ 13 พ.ค. - 7 มิ.ย. 2567 โดยนำเงินและสิ่งของที่ได้ ไปใช้จ่ายส่วนตัว จ่ายค่าไฟบ้าน เลี้ยงดูลูก จากนั้นได้นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า คดีดังกล่าวถือว่า เป็นภัยสังคม ผู้ต้องหาก่อเหตุในช่วงกลางวันตามร้านค้าต่างๆ สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนไปทั่ว ขอฝากเตือนให้ประชาชนใช้ความระมัดระวัง ติดกล้องวงจรปิดภายในร้านสามารถช่วยในการป้องกัน และสืบสวนติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ หมั่นคอยสังเกตุผู้มาใช้บริการ หรือมาซื้อของ หากพบเห็นเบาะแสการกระทำผิด สามารถแจ้งมาที่เพจ สืบนครบาลIDMB ได้ตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าวกรุงเทพมหานคร ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน