จ่าคิงส์ พา ผู้เสียหายชาวญี่ปุ่นแจ้งความกองปราบฯ ถูกมิจฉาชีพหลอกทำวีซ่า สูญเงินกว่า 3 แสนบาท

จ่าคิงส์ พา ผู้เสียหายชาวญี่ปุ่นแจ้งความกองปราบฯ ถูกมิจฉาชีพหลอกทำวีซ่า สูญเงินกว่า 3 แสนบาท

วันที่ 21 ส.ค. 67 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ. พานายชินจิ เมด่ะ อายุ 51 ปี สัญชาติญี่ปุ่น นักธุรกิจด้านเสื้อผ้าผู้เสียหายหนุ่มชาวญี่ปุ่นโดน นายจักรพงษ์ (สงวนนามสกุล ) มิจาฉาชีพคนไทย หลอกทำและต่อวีซ่าชั่วคราว และอาสาว่าจะทำวีซ่าถาวรให้ โดย โอนเงินให้จำนวนหลายครั้ง ที่เรียกว่าเป็นค่ากาแฟแก้วละ 10,000 -20,000 บาท รวม ทั้งสิ้น 3 แสนบาท เคยแจ้งความร้องต่อ ตร.ไซเบอร์ ที่ บช.สอท. ได้เลขจักรพงศ์มาเจรจาตกลงเพื่อทวงเงินคืน แต่ก็ไม่ยอมคืน ตร.ไซเบอร์จึงแนะนำผู้เสียหายให้ทำสัญญาเงินกู้แทน

ต่อมาภายหลังทราบว่า นายจักรพงษ์ มิจฉาชีพรายนี้ โดนตำรวจ สน.เพชรเกษม จับเมื่อ 1 เม.ย.67 ผู้เสียหาย จึงรู้ว่าตนเองน่าจะถูกหลอก วันนี้ได้ติดต่อขอให้จ่าคิงส์ ช่วยพาเข้าแจ้งความตำรวจกองปราบปราม เพราะเกรงว่า การทำขอทำวีซ่าถาวร เพื่ออยู่ในประเทศไทยที่ตนรักตลอดไปนั่นจะเกิดปัญหา วันนี้จึงต้องมาแจ้งความกองป่าเพื่อให้ตรวจพิสูจน์ข้อเท็จจริงทั้งหมดต่อไป

ทั้งนี้ เพจ สน.เพชรเกษม โพสต์เตือนภัย ว่า “ เมื่อวันที่ 1 เม.ย.2567 ได้จับกุมนายจักรพงศ์หรือโต้ง บำรุงวงษ์ ผู้ต้องหาซึ่งศาลแขวงบางบอน ที่ 9/2567 ลงวันที่ 22 มกราคม 2567 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงทรัพย์” ได้หลบหนีไปอยู่แถว จ.สมุทรสาคร จนวันนี้ (1 เม.ย.2567) นายจักรพงศ์ผู้ต้องหาได้พบเจ้าหน้าที่ จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว โดยก่อนจับกุมตัวนั้น เจ้าพนักงานตำรวจได้แสดงหมายจับให้ ดูและอ่านข้อความตามหมายให้ฟัง นายจักรพงศ์ฯทราบและเข้าใจดีแล้วรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริงและยังไม่เคยถูกจับดำเนินคดีตามหมายจับนี้มาก่อนแต่อย่างใด จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พฤติการณ์ก่อนเกิดเหตุ 
ผู้เสียหายได้ว่าจ้างให้ผู้ต้องหา ดำเนินการทำวีซ่าให้กับ แรงงานชาวจีน โดยชำระ ต่อคน 20000 บาท ผู้ต้องหารับปากว่าจะดำเนินการให้ หลังจากนั้น ผู้เสียหายก็โอนเงินชำระไป ต่อมา ได้ติดตามทวงถาม ก็ไม่ตอบ บ่ายเบี่ยง อ้างนั้นนี้ จนมาพบว่ามีผู้เสียหายอีกหลายราย ที่โดนหลอกเช่นกัน เลยมาแจ้ง สน.เพชรเกษม เบื้องต้น พบผู้เสียหาย หลายคน ทั้ง สภ.ชัยพฤกษ์ นนทบุรี สภ.พระสมุทรเจดีย์ สมุทรปราการ

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ได้สอบปากคำผู้เสียหายและดำเนินการช่วยเหลือตามกฏหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ