มูลนิธิทนายกองทัพธรรมและกลุ่มอเวนเจอร์ มาแจ้งความเอาผิดลัทธิเชื่อมจิต พร้อมดำเนินคดีพุทธสาวกบิดเบือนคำสอนพระไตรปิฎก
วันที่ 20 ส.ค.2567 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. มูลนิธิทนายกองทัพธรรมแจ้งความกล่าวโทษเดียรถีย์พุทธสาวก ข้อหา ผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ โดยทีม อเวนเจอร์ จะไปติดตามคดีแก๊งลัทธิเชื่อมจิต ที่จะมีการออกหมายเรียกผู้ต้องหา จำนวน 8 คน
ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ระบุว่า วันนี้ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับเครือข่ายลัทธิเชื่อมจิตรวม 8 คน หลังจากที่มติมหาเถรสมาคม ออกระเบียบมหาเถรสมาคมว่าด้วยการส่งเสริมสำนักปฏิบัติธรรมแห่งคณะสงฆ์ 2567 ออกมา 7 ข้อ และแจ้งให้คณะสงฆ์ทั่วประเทศปฏิบัติ ซึ่งการที่นำเด็ก 8 ขวบ มาขึ้นโฆษณาเผยแพร่คำสั่งสอนของพระไตรปิฎกแบบบิดเบือน ถือว่าเป็นเรื่องทีี่ไม่เหมาะสม วันนี้จึงแจ่้งข้อกล่าว พ่อและแม่ หมอ แอดมินเพจ รวมทั้งทนายความชื่อดัง ในข้อ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ / พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก และข้อหาฉ้อโกงประชาชน ส่วนคดีฟอกเงินอยู่ระหว่างการพิจารณา
ซึ่งวันที่ 11 กันยายนนี้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ. ) ได้ออกหมายเรียก กลุ่มเชื่อมจิตทั้ง 8 คน มารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งพวกตนก็จะทำเรื่องคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาล หากไม่ยุติการดำเนินการของกลุ่มดังกล่าว ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อพระพุทธศาสนา
นอกจากนี้จะติดตามสืบหาว่าลัทธิดังกล่าวจะมีการจัดกิจกรรมรับแสงสีทองจากเทพในสถานที่ใดบ้าง ซึ่งพวกตนจะทำหนังสือไปถึงองค์กรเหล่านั้น ขอความร่วมมือให้ยุติกิจกรรมดังกล่าว พร้อมขอความร่วมมือกับพุทธบริษัทให้ร่วมกันออกมาปกป้องพระพุทธศาสนาร่วมกัน
อย่างไรก็ตามตนยังตั้งข้อสังเกตว่า การที่ลัทธิดังกล่าวยังมีการเคลื่อนไหวเชื่อว่ายังมีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง ดังนั้นจะกระชากหน้ากากบุคคลดังกล่าวออกมาให้ได้
ขณะที่วันนี้ มูลนิธิกองทัพธรรมยังได้รวบรวมพยานหลักฐาน แจ้งความกล่าวโทษเดียรถีย์พุทธสาวก ข้อหาผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ แต่งกายเลียนแบบสงฆ์ ของสมเด็จพระสังฆราชโดยได้มีการเชิญโอวาทของสมเด็จพระสังฆราชปี 2567 มาชี้แจงให้ฟังว่า สังคมไทยอยู่ในภาวะน่าเป็นห่วง เป็นผู้แสดงเป็นผู้รู้ทางพระไตรปิฎก ซึ่งเป็นการพูดเอง คิดเอง ไม่สอดคล้องกับพระไตรปิฎก นับเป็นบ่อนทำลายพระพุทธศาสตาอย่างร้ายแรง ผู้รู้ต้องชี้แจงและให้ข้อมูลอย่างถูกต้อง ซึ่งหน่วยงานรัฐต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน
ด้าน มหาหมี ยืนยันว่า จะต้องปกป้องพระพุทธศาสนา ส่วนผู้ที่หยิบยกหลักธรรมไปใช้ ต้องอยู่ในกรอบของพระไตรปิฎก
ส่วน นายอธิเทพ ผาทา บอกด้วยว่า ปัญหาทุกวันนี้ถือว่าหนักหนาสาหัสมากกว่าทุกยุคทุกสมัย ที่มีการบิดเบือนคำสอนของพระไตรปิฎก ทำให้เกิดความเสียหาย ดังนั้นจะมีการแจ้งความดำเนินคดีในทุกกรณี
ขณะที่ อี้ แทนคุณ ได้ขอบคุณทุกฝ่าย และฝากไปถึงกลุ่ทเชื่อมจิตว่าอย่าท้าทายระบบและตีความเข้าข้างตัวเอง อีกทั้งการนำเด็กมาหากินและหาประโยชน์โดยใช้ลัทธิบังหน้าถือเป็นเรื่องที่ไม่หมาะสม ฝากถึงสภาทนายความให้ช่วยพิจารณา มารยาททนายชื่อดังด้วย
เช่นเดียวกับ ต้นอ้อ เพจเป็นหนึ่ง ยังฝากถึง ลัทธิเชื่อมจิต ขอให้ทุกคนเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวน ส่วนคณะของเรายืนยันว่าจะต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นลบหรือบวกก็ไม่มีความกังวล ทุกคนพร้อมต่อสู้ในความถูกต้อง แม้จะต้องถูกดำเนินคดี
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล รายงาน