ระวัง! อย.ออกมาบอกแล้ว ทาครีมกันยุงแบบไหนปลอดภัย
วันที่ 20 สิงหาคมของทุกปี ตรงกับ วันยุงโลก (World Mosquito) ซึ่งยุงในบ้านเรามีหลายชนิด แต่ละชนิดเป็นพาหะของโรคแตกต่างงกัน เช่น ยุงรำคาญ เป็นพาหะของโรคไข้สมองอักเสบ ยุงลายเสือ เป็นพาหะของโรคเท้าช้าง ส่วน ยุงก้นปล่อง เป็นพาหะของโรคมาลาเรีย แลกอีกตัวร้ายคือ ยุงลาย เป็นพาหะของโรค ไข้เลือดออก ไข้ปวดข้อหรือชิคุนกุนยา และไข้ซิกา
ซึ่งยุงตัวเล็กๆ ก่อโรคมากมายเช่นนี้ จึงต้องให้ความสำคัญกับการป้องกันโรค ทางด้าน เภสัชกรวีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ห่วงใยสุขภาพประชาชนจึงขอแนะวิธีการป้องกันยุงเบื้องต้น คือ ควรสวมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด หลีกเลี่ยงแหล่งที่มียุงชุม กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุง นอนกางมุ้ง และอีกวิธีที่ได้รับความนิยมคืการใช้ผลิตภัณฑ์ทาผิวหนังไล่ยุง
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ทาผิวหนังไล่ยุง แบ่งเป็น 2 แบบ คือ 1. มีสารเคมีเป็นสารออกฤทธิ์ เช่น ดีอีอีที (DEET) เอทิลบิวทิลอะซีทิลอะมิโนโพรไพโอเนต (Ethyl butylacetyl aminopropionate) และอิคาริดิน (Icaridin) ซึ่งต้องได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อย. ดังนั้น ต้องเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ฉลากแสดงเลขทะเบียน อย. วอส. ในกรอบเครื่องหมาย อย. 2. มีน้ำมันตะไคร้หอม หรือ Citronella oil เป็นสารออกฤทธิ์ ต้องแจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่อ อย. จึงควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ฉลากแสดงเลขที่รับแจ้ง (xxx/yyyy)
สำหรับการใช้ผลิตภัณฑ์ทาผิวหนังไล่ยุง ส่วนใหญ่ห้ามใช้ในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 4 ปี จึงควรดูข้อจำกัดของอายุเด็กในการใช้ผลิตภัณฑ์บนฉลาก ควรใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น และห้ามนำไปใช้ทาแทนแป้งหรือโลชั่นทั่วไป ก่อนใช้ควรทดสอบการแพ้ โดยการทาหรือพ่นที่บริเวณข้อพับหรือท้องแขน ถ้าไม่เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง จึงใช้บริเวณอื่น อย่าทาบริเวณเนื้อเยื่ออ่อน เช่น บริเวณใกล้ตา ริมฝีปาก เปลือกตา รักแร้ หรือทาบริเวณแผล ล้างมือทุกครั้งหลังใช้ผลิตภัณฑ์
หากไม่ได้รับความปลอดภัยจากการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ สามารถสอบถามหรือแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วน อย. 1556 หรือผ่าน Line @FDAThai Facebook: FDAThai หรือ E-mail: 1556@fda.moph.go.th ตู้ ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ