ลูกสงสัย พ่อกับแม่ทำไมยังไม่กลับบ้าน โทรหาญาติไปตามหา
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 ส.ค.2567 สภ.เมืองชัยนาท รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในบ่อบาดาล บริเวณกลางทุ่งนา ม.5 ต.ชัยนาท อ.เมือง จ.ชัยนาท ที่เกิดเหตุเป็นบ่อบาดาลกลางทุ่งนา มีความลึกประมาณ 10 เมตร ก้นบ่อพบร่างผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นายยงยุทธ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี และ น.ส.ดารุณี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี เป็นสามีภรรยากัน
เจ้าหน้าที่กู้ภัยระดมกำลังนำอุปกรณ์พร้อมถังออกซิเจนก่อนใช้เชือกโรยตัวลงไปภายในบ่อ เพื่อไปผูกมัดกับร่างของผู้เสียชีวิตก่อนที่จะนำขึ้นมาได้อย่างทุลักทุเลเนื่องจากภายในบ่อไม่มีอากาศหายใจ มีแต่กลิ่นก๊าซไข่เน่า เจ้าหน้าที่ใช้เวลา ประมาณ 1 ชั่วโมง จึงนำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนขึ้นมาจากบ่อได้สำเร็จ จากการสอบถาม นางยุพเยาว์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี พี่สาวของนายยงยุทธ และเป็นคนพบร่าง กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้า ลูกชายของผู้เสียชีวิตได้โทรศัพท์มาบอกว่า พ่อกับแม่ยังไม่กลับจากนาตั้งแต่ เวลา 21.00 น.ของวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา ช่วยไปดูให้หน่อย
นางยุพเยาว์ กล่าวต่อว่า ซึ่งก่อนพบร่าง ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ได้ออกมาตั้งเครื่องสูบน้ำที่นา และทุกคนภายในบ้านคิดว่านอนพักอยู่ที่ห้างนา ภายหลังจากการพูดคุยโทรศัพท์เสร็จ ตนได้เดินทางมายังที่นาเพื่อมาตามหา นางยุพเยาว์ กล่าวอีกว่า เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุพบว่า รถไถของผู้เสียชีวิตยังจอดติดเครื่องอยู่ ตนจึงมองไปที่ปากบ่อบาดาลก็เห็นรองเท้าของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนถอดอยู่ ตนจึงเดินเข้าไปดู แต่ก็ต้องพบกับเหตุการณ์สลดดังกล่าว ก่อนจะโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาตรวจสอบ
ด้าน นายทวีป (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 72 ปี ลุงของน.ส.ดารุณี กล่าวว่า พบกันครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลา 18.00 น. เห็นเขากลับไปบ้าน ไปเอารถไถมาดึงน้ำเข้านา ตอนเขาลงไม่เห็นเหตุการณ์ แต่เขาเล่ากันว่าผัวลงไปเพื่อเอาสายพานเกี่ยวกับปั๊มน้ำในบ่อเพื่อสูบน้ำเข้านา นายทวีป กล่าวต่อว่า แต่ด้านล่างไม่มีอากาศทำให้หมดสติไป เมียฉายไฟอยู่ด้านบนเห็นผัวแย่จึงลงไปช่วยทำให้เสียชีวิตทั้งคู่ ญาติตามหากันทั้งคืนไม่พบ พี่สาวของนายยงยุทธมาพบตอนเช้า เครื่องรถไถยังติดอยู่เลย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการชันสูตรพลิก คาดว่า ทั้ง 2 คน ขาดอากาศหายใจ เนื่องจากก้นบ่อบาดาลนั้นไม่มีอากาศเพียงพอ จนทำให้ขาดอากาศและหมดสติจนเสียชีวิตในที่สุด ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้ทำการมอบร่างของทั้ง 2 คน ให้กับญาติ เพื่อไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป