สาวนักธุรกิจ ร้องสายไหมต้องรอด ถูกย่ามหาภัย ฟ้องชู้ ทั้งที่หย่าร้างกับคุณปู่ไปนานกว่า 10 ปี สู้คดีนาน 7 ปี จนสามีเสียชีวิต เชื่อมีเป้าหมายแอบแฝง

สาวนักธุรกิจ ร้องสายไหมต้องรอด ถูกย่ามหาภัย ฟ้องชู้ ทั้งที่หย่าร้างกับคุณปู่ไปนานกว่า 10 ปี สู้คดีนาน 7 ปี จนสามีเสียชีวิต เชื่อมีเป้าหมายแอบแฝง

วันนี้ 19 สิงหาคม 2567 นางสาว พรพิมล ปั้นวิลัย อายุ 37 ปี ผู้เสียหายเล่าให้ฟังว่า เมื่อปี 2560 ตนได้ลงทุนเปิดร้านอาหารร่วมกับเพื่อนคนหนึ่ง ก่อนที่เพื่อนคนนั้นจะขายหุ้นไปยังคุณปู่ของเพื่อนอายุประมาณ 80 ปีเป็นผู้ถือหุ้นแทน จากนั้นก็มีย่าคนหนึ่งอายุประมาณ 70 ปี ซึ่งเป็นอดีตภรรยาปู่ที่มีการหย่าร้างไปแล้วตั้งแต่ปี 2550 มาฟ้องชู้กับตนเอง โดยนำหลักฐานเป็นภาพถ่ายพนักงานหญิงสาวในร้าน และหญิงอื่นอีกหนึ่งนั่งพูดคุยอยู่กับคุณปู่ภายในร้าน นำมาแถลงต่อศาลฯ ก่อนที่ศาลฯจะยกฟ้อง เนื่องจากบุคคลในรูปไม่ใช่ตนเอง พร้อมกับมีคำสั่งให้คุณย่าหยุดกล่าวหาตนเองว่าเป็นเมียน้อย แต่คุณย่าก็ยังไม่หยุด ตนทำให้ตนเองต้องฟ้องร้องกลับ ในข้อหาเบิกความเท็จ

จนเมื่อปี 2566 ศาลมีคำสั่งจำคุกคุณย่า 2 ปี ซึ่งโทษอยู่ระหว่างรอลงอาญา โดยตลอดระยะเวลา 7 ปี คุณย่าได้ฟ้องชู้ตนเองมาตลอด ทำให้สามีเสียชีวิตเนื่องจากมีอาการภาวะเครียด นอกจากนี้ยังทำให้แม่ของสามีเข้าใจผิดคิดว่าตนเองเป็นคนหลอกลวง ต่อมาล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีตำรวจยศ "ร้อยตำรวจเอก" สังกัด สภ. รัตนาธิเบศร์ พร้อมตำรวจสังกัดสภพระสมุทรเจดีย์อีก 2 นาย เข้ามาหาต้นที่บ้านพร้อมกับอ้างว่าตนเองได้ไปขับรถเฉี่ยวชนผู้เสียหาย แต่ก็ไม่สามารถแสดงหลักฐานหรือชี้แจงข้อเท็จจริงอะไรได้ ก่อนจะถอนกำลังกลับไป

ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เพื่อนบ้านวิพากษ์วิจารณ์ตนเองในทางลบและตนได้มีการไปสืบจนสามารถทำหนังสือถามไปยังต้นสังกัด จนได้ความมาว่า คุณย่าได้ไปลงบันทึกประจำวันกับ ตำรวจสภ.รัตนาธิเบศร์โดยอ้างว่า ตนเองเป็นเมียน้อยและคุณปู่ได้หนีมาอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว

ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมด ทำให้ตนเองมองว่า เป็นการคุกคาม เนื่องจากสามารถรู้ที่อยู่ อีกครั้งยังรู้ข้อมูลส่วนตัว หากจะเป็นการเอาชีวิตตนเอง คุณย่าก็สามารถจะทำได้ จึงรู้สึกไม่มีความปลอดภัยในการใช้ชีวิต ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้คุณย่าและลูกเคยมาขอโทษตนเองแล้ว ทำให้ตนเองสงสัยว่าการฟ้องร้องตนเองคุณย่าต้องการอะไรกันแน่ เพราะคุณย่ามีการเรียกร้องค่าเสียหายจากตนเอง 2.5 ล้านบาท รวมทั้งคุณปู่ที่เป็นอดีตสามีอีก 50 ล้านบาท ซึ่งตนเองมองว่าคุณย่าน่าจะต้องการผลประโยชน์จากเรื่องนี้มากกว่าการฟ้องชู้

ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ เปิดเผยว่า ตนจะประสานไปยังสภ.รัตนาธิเบศร์ ว่าตำรวจนายดังกล่าว ได้รับมอบหมายไปด้วยเหตุอะไร และมีหน้าที่หรือไม่ ส่วนคุณย่าก็ขอให้จบได้แล้ว เพราะคุณย่าไม่มีสิทธิ์ไปฟ้องร้อง เนื่องจากไม่ได้เป็นสามีภรรยากับคุณปู่แล้ว และผู้เสียหายก็ต่อสู้คดีความจนสามีเสียชีวิต

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ