รวบโจ๋วัย 17 ปี หลังก่อเหตุชิงทอง ในร้านทองห้าง ย่านรัชดา
วันที่ 18 ส.ค.ที่สน.ห้วยขวาง พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง พ.ต.ท.รุจิภาส ถิระอมรบุญ รอง ผกก.สส.สน.ห้วยขวาง พ.ต.ท.วัฒนา เพชรรัตน์ สว.สส.นำกำลังฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวาง ร่วมกันแถลงจับกุมนายโต๋ อายุ 17 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธปืน ชิงทรัพย์ร้านทองแห่งหนึ่ง ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านรัชดา หลังทำทีขอดูสร้อยทองก่อนหยิบเอาสร้อยข้อมือหนัก 5 บาท วิ่งหนีไปเอารถ จยย. ขับขี่หลบหนีไป ต่อมาชุดสืบสวนกดดันอย่างหนัก ผ่านไปราว 3 ชั่วโมง ผู้ต้องหาได้ประสานให้ญาติพาเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน จนสามารถจับกุมได้พร้อมยึดของกลางเป็นสร้อยข้อมือทองคำ หนัก 5 บาท ซุกซ่อนไว้ที่ยางอะไหล่รถยนต์พื้นที่แฟลตห้วยขวาง และรถ จยย.คันที่ใช้ก่อเหตุ
พล.ต.ต.อัฏธพร กล่าวว่า หลังรับแจ้งเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจห้วยขวางทั้งฝ่ายสืบสวนและฝ่าย สอบสวน เร่งไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยใช้เวลาไม่นานจนทราบตัวผู้ก่อเหตุ และยานพาหนะ แต่เนื่องจากระหว่างที่เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่พักย่านริมทางรถไฟมักกะสัน แต่คลาดกันกับผู้ต้องหา ตนจึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ศักยะฯ รอง ผบก.น.1 และ พ.ต.อ.ประสพโชคฯ ผกก.สน.ห้วยขวางติดตามอย่างกระชั้นชิด ไปยัง 3 เป้าหมาย บ้านลูก บ้านแม่ และบ้านเพื่อน เพื่อกดดันอย่างเต็มที่ กระทั่งเพียงไม่นานก็ติดตามจับกุมตัวได้
โดยขณะจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ พร้อมกับตรวจยึดของกลางสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 5 บาทที่ผู้ต้องหาได้นำไปซุกซ่อนไว้ในยางรถยนต์ ใต้ต้นมะขาม บริเวณแฟลตห้วยขวาง พร้อมกับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่นเวฟ ที่ใช้ก่อเหตุ รวมถึงเก็บพยานหลักฐาน หัวกระสุนปืนที่ผู้ต้องหาใช้ลั่นไกในห้างตกอยู่ 1 หัว และแม็กกาซีนปืน ส่งให้กับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบ และชุดเสื้อผ้า รองเท้าแตะที่สวมใส่ขณะก่อเหตุ นอกจากนี้ล่าสุด ได้รับรายงานจากชุดสืบสวนว่า สามารถงม จนพบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นปืนยี่ห้อซิกซาวเออร์ ขนาด 9 มม.ยังไม่ทราบทะเบียน ที่ผู้ต้องหาโยนทิ้งลงคลองรังสิตพื้นที่จังหวัดปทุมธานี
จากการซักถามผู้ต้องหาเบื้องต้นให้การว่า ผู้ต้องหาเป็นเพียงเยาวชนอายุ 17 ปี มีความเดือดร้อนเรื่องเงิน ทั้งหนี้สินและลูกที่ต้องคอยส่งเสียดูแล เดือนละ 4-5 พัน และต้องผ่อนรถ และช่วงนี้ต้องหันมาประกอบอาชีพขับไรเดอร์ รายได้ไม่ค่อยดี ก่อนเกิดเหตุเดินวนดูลาดเลา 1 ครั้งและเข้าไปทำทีขอซื้อทอง 5 นาที ก่อนเดินออกจากร้านไป ก่อนจะกลับเข้ามาในร้านอีก 5 นาทีและก่อเหตุ โดยผู้ต้องหาอ้างว่าขณะก่อเหตุคิดฉับพลัน เมื่อทราบตัวจริงประสานไปยังผู้ปกครองเด็ก และเข้ามาพบกับพนักงานสอบสวนแล้ว สำหรับอาวุธปืนผู้ต้องหาอ้างว่าได้สั่งซื้อมาทางออนไลน์ เมื่อปีกว่าๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำ สร้อยข้อมือของกลางให้กับทาง พนักงานร้านทองได้ดู ว่าใช่ทองของที่ร้านที่หายไปหรือไม่ โดยพนักงานยืนยันว่าของกลางดังกล่าวเป็นทองที่หายไปจริง เบื้องต้นพนักงานสอบสวนเตรียมประสานสหวิชาชีพเพื่อมาร่วมสอบปากคำ ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลางดำเนินคดีตามกฎหมาย
นอกจากนี้เป็นการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าขนาดคนร้ายลงมือก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีและเกิดสดุดล้มได้ชักอาวุธปืนออกมายิง พนักงาน 1 ครั้ง แต่กระสุนไม่ออก จากนั้นได้วิ่งหลบหนีลงบันไดเลื่อน และใช้อาวุธปืนออกมายิงรปภ. อีกหนึ่งนัด เพื่อยิงเปิดทางหนี แต่กระสุนตกลงพื้น
ทั้งนี้ผู้บังคับบัญชาได้ตระหนักถึง ความปลอดภัย เมื่อข้อมูลหลัดฐานชัดเจน จึงสั่งการมาที่ตน เพื่อให้มาแถลงสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยวในพื้นที่ ซึ่งหลังเหตุเกิดสามารถจับกุมตัวได้ภายใน 3 ชั่วโมง และสามารถรู้ตัวคนร้ายได้ภายใน 2 ชั่วโมง ทั้งนี้ต้องขอชื่นชม ตำรวจสน.ห้วยขวาง และรองผู้การ บก.น.1 ที่คุมงานสืบสวน ที่ทำงานได้รวดเร็ว ผบก.น.1 กล่าว.
ซึ่งผู้สื่อข่าวนายฉัตรชัย คนอ้วน พนักงานร้านทองได้วิ่งไล่ติดตามคนร้ายไปในทันทีและกำลังจะจับตัวได้ คนร้ายจึงใช้อาวุธปืนยิงใส่ดนัดแต่กระสุนไม่ลั่น จากนั้นได้ลั่นไกปืนอีกครั้งแต่ไม่ถูกผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จากนั้นคนร้ายได้วิ่งหลบหนีออกไปทางประตูทางออกถนนรัชดาและขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.กรุงเทพมหานคร รายงาน