ชาวบ้านลืออาถรรพ์เลข13 สาวใหญ่เพิ่งจดทะเบียน 13 วัน ผูกคอดับปริศนาคาบ้าน
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 17 ส.ค.67 พ.ต.ต.กล้าหาญ ใจกระจ่าง สว ( สอบสวน ) สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุคนผูกคอตายที่บ้านเลขที่ 56/2 หมู่ 4 ต.นาทราย อ.เมือง จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติชัย ไกรณรา ผกก.,พ.ต.ท.จรินทร์ ขาวเอี่ยม รอง ผกก.(สอบสวน) ตำรวจสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจ เดินทางไปร่วมชันสูตรพลิกศพ
เมื่อถึงบ้านเกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบผู้เสียชีวิตชื่อ น.ส.ภวิกา สังขวิเชียร อายุ 51 ปี สภาพศพใช้สายไฟฟ้าปลั๊กพ่วงผูกคอกับบานพับเหล็กหน้าต่างห้องนอน ศพห้อยออกมานอกบ้าน ในชุดสวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้นลายดอก จึงนำศพลงมาชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นพบเพียงรอยฟกช้ำที่หางคิ้ว ส่วนตามร่างกายไม่มีร่องรอยถูกทำร้าย คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 - 4 ชั่วโมง
จากการสอบสวนนายภควัต พหลภักดี อายุ 40 ปี สามีผู้ตาย (เสื้อยืดคอกลมสีดำ ) ให้การเบื้องต้นว่า ตนและภรรยา มีอาชีพคนงานแผงมังคุดในหมู่บ้าน ก่อนหน้านี้ตนคบกับภรรยาอยู่กินกันที่ จ.จันทบุรี ได้ระยะหนึ่ง กระทั้ง 3 เดือนที่ผ่านมา ตนและภรรยากลับมาอาศัยมาบ้านเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านของตนเอง กระทั้งวันที่ 5 ส.ค.67 ที่ผ่านมา ตนและภรรยาได้จดทะเบียนสมรส อย่างไรก็ตามตนยอมรับว่าเคยทะเลาะกับภรรยาเหมือนกัน ในเรื่องส่วนตัว เรื่องเงินค่าใช้จ่ายในบ้าน แต่ไม่เคยทำร้ายภรรยา ส่วนภรรยาเป็นคนขี้น้อยใจ โดยก่อนเกิดเหตุช่วงสายตนทะเลาะกับภรรยา ก่อนที่ตนจะออกนอกบ้าน โดยชวนภรรยาไปด้วย แต่ภรรยาไม่ไป กระทั้งเพื่อนบ้านแจ้งว่า ภรรยาของตนผูกคอตาย ตนยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายภรรยา ส่วนสาเหตุที่ภรรยาผูกคอตาย น่าจะเกิดความน้อยใจเรื่องบางอย่าง
ขณะที่นายอำนวยโชค คงเสน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.นาทราย ให้ข้อมูลว่า ช่วงสายได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่า สองสามีภรรยาคู่นี้ ทะเลาะวิวาทกัน จึงให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเข้าตรวจสอบที่บ้าน แต่พบว่าบ้านปิดเงียบ ไม่มีใครอยู่บ้าน ขณะที่ญาติของผู้เสียชีวิต ยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากผู้ตาย ไม่มีเหตุใดที่จะผูกคอตาย ตำรวจจึงส่งศพให้แพทย์นิติเวชชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุการเสียชีวิตให้แน่ชัดอีกครั้ง หลังเกิดเหตุชาวบ้านในหมู่บ้านลืออาถรรพ์เลข 13 เนื่องจากผู้ตายไม่มีมูลเหตุใดๆ ที่จะผูกคอฆ่าตัวตาย ประกอบกับผู้ตายและสามีเพิ่งจดทะเบียนสมรสกันได้ 13 วัน
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.นครศรีธรรมราช รายงาน