ตำรวจไซเบอร์รวบแก๊งอ้างการไฟฟ้าหลอกติตตั้งแอปดูดเงิน หลอกเมียเหยื่อให้สแกนหน้าผัว สูบเงินเกลี้ยงกว่า 2 แสน

ตำรวจไซเบอร์รวบแก๊งอ้างการไฟฟ้าหลอกติตตั้งแอปดูดเงิน หลอกเมียเหยื่อให้สแกนหน้าผัว สูบเงินเกลี้ยงกว่า 2 แสน

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 ก.ค.66 ได้มีคนร้ายโทรศัพท์หาผู้เสียหายขณะกำลังขับรถเพื่อเดินทางกลับบ้านในพื้นที่ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม โดยสอบถามว่าลงทะเบียนรับส่วนลดค่าไฟฟ้าหรือยัง ผู้เสียแจ้งว่ายังไม่ได้ลงทะเบียน และไม่สะดวกคุยสายจึงได้วางสายไป วันรุ่งขึ้น ภรรยาของผู้เสียหายได้เปิดโทรศัพท์ของผู้เสียหาย พบบัญชีไลน์ชื่อ “การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค” ได้ส่งภาพประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมข้อความสอบถามการลงทะเบียนรับสิทธิ์ช่วยเหลือค่าไฟฟ้าและคืนเงินค่ามิเตอร์ ซึ่งภรรยาของผู้เสียหายได้พิมพ์ตอบไปว่า ยังไม่ได้รับสิทธิ์

จากนั้นคนร้ายได้อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า ได้แชทขอข้อมูลและหมายเลขโทรศัพท์จากภรรยาผู้เสียหาย ภายหลังได้มีชายที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้โทรศัพท์สอบถามการลงทะเบียนรับสิทธิ์ และได้ให้ภรรยาของผู้เสียหายทำรายการผ่านแอปพลิเคชันไลน์ตามที่คนร้ายแจ้ง โดยได้กดลิงก์ที่คนร้ายส่งมาและกรอกข้อมูลตามที่คนร้ายกำหนด

จากนั้น คนร้ายได้ให้ภรรยาของผู้เสียหายนำโทรศัพท์ไปสแกนใบหน้าผู้เสียหายซึ่งเป็นสามีของตน ภรรยาหลงเชื่อจึงสแกนใบหน้าผู้เสียหายไปจำนวน 2 ครั้ง เมื่อเรียบร้อยแล้วคนร้ายจึงได้วางสายไป จนกระทั่งผู้เสียหายได้ไปถอนเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ปรากฎว่าเงินในบัญชีธนาคารของผู้เสียหายได้ถูกโอนออกไปเกลี้ยงบัญชี จำนวน 228,700 บาท จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ในเวลาต่อมา

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ส่งเจ้าหน้าที่ออกสืบสวนกรณีดังกล่าว ต่อมาสามารถรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องได้หลายราย กระทั่ง ว่าที่ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคระห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ได้ส่งกำลังลงพื้นที่ออกติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในขบวนดังกล่าวรายหนึ่งได้ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันจับกุม น.ส.ยุวดี อายุ 43 ปี ชาวสุพรรณบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดมหาสารคาม ที่ จ.221/2567 ลง 8 ส.ค.67 ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่นโดยการปลอมตัวเป็นผู้รับ ร่วมกันโดยทุจริตนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จทั้งหมดหรือบางส่วนโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” โดยควบคุมตัวได้ที่ หน้าบ้านของผู้ต้องหา ในพื้นที่ ม. 9 ต.เขาพระ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี นำส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สอท.3 ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ