ตำรวจวิสามัญหนุ่มเสียชีวิต ญาติคาใจ ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ แปลก ๆ ไม่ยอมให้ดูศพ

ตำรวจวิสามัญหนุ่มเสียชีวิต ญาติคาใจ ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ แปลก ๆ ไม่ยอมให้ดูศพ

เมื่อเวลา 01.30 น.วันที่ 15 ส.ค.67 พ.ต.ท.ศักดิ์นรินทร์ ตรัสสุภาพ สารวัตร(สอบสวน)สน.บางรัก รับแจ้งเหตุวิสามัญฆาตรกรรม ภายในซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 1 แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์ สารบุญ ผกก.สน.บางรัก พ.ต.ท.ธเรศ วงศ์วรานุรักษ์ รอง ผกก.ป. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และสายตรวจ สน.บางรัก เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณกลางซอยฯ พบศพนายมงคล กมลสวัสดิ์ อายุ 46 ปีสภาพนอนคว่ำจมกองเลือด สวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์สามส่วน ตามร่างกายมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด กระสุนเข้าใต้ราวนมซ้าย กลางลำตัว ใต้สะดือและด้านหลัง รวม 6 นัด

ใกล้กันพบอาวุธปืนสั้นขนาด 9 ม.ม.ตกอยู่ 1 กระบอก บรรจุกระสุนในแม็กกาซีน 5 นัดและในรังเพลิง 1 นัด ห่างออกไปพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีบรอนด์เงิน หมายเลขทะเบียน 1ขจ 1980 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถของผู้เสียชีวิต จอดเปิดเบาะท้ายอยู่ บริเวณที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนและหัวกระสุนปืนตกเกลื่อนกว่า 10 จุด จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจนอกเครื่องแบบ สน.บางรัก 2 นาย ยืนรอมอบตัวในที่เกิดเหตุ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุรับแจ้งว่ามีชายเมาสุราอาละวาดอยู่บริเวณหน้าร้านซิมพลี จึงไปตรวจสอบพบชายดังกล่าวยืนอาละวาดอยู่จริง โดยจอดรถจักรยานยนต์อยู่ใกล้ๆหน้าร้าน จึงขอตรวจค้นอาวุธและสิ่งของผิดกฎหมายใต้เบาะรถ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่เมื่อจะขอตรวจค้นตัว ผู้เสียชีวิตกลับชักอาวุธปืนออกมายิงใส่ไม่ยั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบทั้ง 2 นาย จึงต้องหลบและยิงตอบโต้กลับไปเช่นกัน ส่งผลทำให้นายมงคล ถูกยิงเสียชีวิตดังกล่าว

จากนั้นพนักงานสอบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าพนักงานอัยการ ได้นำตัวตำรวจนอกเครื่องแบบทั้ง 2 นาย ไปสอบสวนที่สน.บางรัก พร้อมตรวจคราบเขม่าดินปืนที่มือ และตรวจสอบลายนิ้วมือบนอาวุธปืนทั้ง 2 กระบอกไว้เป็นหลักฐาน

ด้านนายสุขสม มงคลสวัสดิ์ อายุ 50 ปี พี่ชายผู้เสียชีวิตให้การว่า น้องชายทำงานเป็นพนักงานส่งเอกสาร เพิ่งออกจากงานมาได้ 3 เดือน มีลูกกับแฟนเก่ารวม 4 คน แต่แฟนคนปัจจุบันที่คบหากันมานาน 7 ปี ไม่ได้มีลูกด้วยกัน ส่วนมูลเหตุเกิดจากน้องชายจับได้ว่าแฟนสาว ซึ่งทำงานเป็นพีอาร์ ได้มาติดสาวทอมที่ร้านใกล้ที่เกิดเหตุ คาดว่าคงตามหาแฟนสาวที่ร้าน กระทั่งเกิดเหตุขึ้น ส่วนอาวุธปืนที่พบเป็นของน้องชายหรือไม่ตนไม่ทราบ

แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำแปลกๆ ไม่ยอมให้ญาติเข้าไปดูศพ และห้ามถ่ายรูป อยากถามตำรวจว่ากระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ อยากเรียกร้องความยุติธรรมให้น้องชายด้วย สำหรับน้องชาย เคยมีคดีร่วมกันฆ่าเมื่อกว่า 10 ปีที่ผ่านมาแต่ศาลตัดสินยกฟ้องไปแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำศพส่งนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดต่อไป

ผู้สื่อข่าวกรุงเทพมหานคร ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ