เปิดขั้นตอน เลือกนายกฯคนที่ 31 หลัง‘เศรษฐา’พ้นจากตำแหน่งตามมติศาลรัฐธรรมนูญ

เปิดขั้นตอน เลือกนายกฯคนที่ 31 หลัง‘เศรษฐา’พ้นจากตำแหน่งตามมติศาลรัฐธรรมนูญ

วันที่ 14 ส.ค.2567 จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 ให้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้คณะรัฐมนตรี พ้นทั้งคณะ ตามมาตรา 167 วรรคหนึ่ง ให้ใช้มาตรา 168 มาใช้ต่อไป จากกรณีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีนั้น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ จะทำหน้าที่ รักษาการนายกฯ และคณะรัฐมนตรี ยังคงทำหน้าที่เป็นครม.รักษาการ จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการเลือกนายกฯคนใหม่ ในรัฐสภา ตามมาตรา 159 โดยนัดประชุมสภา ดังนี้

1.ให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคล มาเป็นนายกรัฐมนตรี และเป็นผู้มีชื่ออยู่ ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ กับ กกต. โดยเลือกเฉพาะจากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองที่มี ส.ส.ในสภาไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของจํานวน ส.ส.ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร 500 คน หรือ มี ส.ส. 25 คนขึ้นไป ทั้งนี้ แคนดิเดตนายกฯ ที่อยู่ในบัญชีนายกฯ ตั้งแต่ช่วงของการเลือกตั้งปี 2566 พรรคเพื่อไทย มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายชัยเกษม นิติสิริ พรรคภูมิใจไทย มีชื่อของนายอนุทิน ชาญวีรกูล พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พรรครวมไทยชาติสร้าง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค

2.การเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ในรัฐสภา ตามวรรคหนึ่งต้องมีสมาชิกรับรองไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจํานวนสมาชิกทั้งหมด เท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่มติของสภาผู้แทนราษฎรที่เห็นชอบการแต่งตั้งบุคคลใดให้เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องกระทําโดยการลงคะแนนโดยเปิดเผย และมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ของสภาฯ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ