ผงะ! สาวไม่ได้อยู่ห้อง 1 สัปดาห์ นิติคอนโดโทรมาแจ้ง มีกลิ่นเหม็นเน่าในห้อง พอกลับมาดูถึงกับเข่าทรุด ใครรับผิดชอบ

ผงะ! สาวไม่ได้อยู่ห้อง 1 สัปดาห์ นิติคอนโดโทรมาแจ้ง มีกลิ่นเหม็นเน่าในห้อง พอกลับมาดูถึงกับเข่าทรุด ใครรับผิดชอบ

เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก Besty Kewalee ได้ออกมาโพสต์เล่าประสบการณ์การเจอเรื่องราวสุดสยองที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอกับตัวเอง หละงจากที่นิติคอนโดโทรศัพท์มาแจ้งว่า ทำไมห้องของคุณถึงมีกลิ่นเหม็นคาวออกมานอกห้อง พอเจอทักแบบนี้เข้าไปก็งงหนัก เพราะเธอไม่ได้เข้าห้องนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ แล้วจะมีกลิ่นเหม็นมาได้ยังไง

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่กลับไปที่ห้องของเธอ ก็พบน้ำเสียท่วมห้อง มีคราบไขมันลอยอยู่ตั้งแต่ห้องนั่งเล่น ห้องนอน 2 ห้อง ห้องน้ำ กลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว ไกลถึงประตูลิฟต์ ไม่คิดเลยว่า แค่ไม่ได้มาห้องเพียง 1 สัปดาห์ ห้องจะมาอยู่ในสภาพแบบนี้ได้

ส่วนต้นเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์นี้ อยู่ที่ท่อน้ำทิ้งใต้อ่างล้างจาน เมื่อช่างมาตรวจสอบ พบว่า มีน้ำเสียดันไหลย้อนออกจากท่อน้ำทิ้งเรื่อย ๆ ตลอดเวลาโดยไม่หยุด ทางฝั่งช่างจึงแก้ไขด้วยการใช้เหล็กยาว 9 เมตร ทะลวงท่อหาสิ่งอุดตัน แต่ก็ไม่เจออะไร แล้วอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำเสียมันไหลย้อนกลับมา

ทั้งนี้ ช่างวิเคราะห์ว่า ปัญหาหลักตอนนี้น่าจะอยู่ที่ท่อน้ำทิ้งเมนหลักของคอนโด จนกระทั่ง เมื่อช่างอีกคนมาทะลวงท่อน้ำทิ้งเมนหลัก น้ำเสียก็ไหลทะลักออกมาทันที จึงอยากถามว่า นิติคอนโดจะแก้ปัญหานี้ยังไงต่อไป เพราะนิติคอนโดที่บริหารงานกำลังจะหมดสัญญาวันที่ 31 สิงหาคมนี้ ส่วนประกันคอนโดก็จะหมดสัญญาวันที่ 25 สิงหาคมที่จะถึงนี้เช่นกัน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หลังจากที่จ้างพนักงานทำความสะอาดข้างนอก มาทำความสะอาดและเคลียร์เรื่องน้ำท่วมห้อง แต่กลิ่นนั้นยังคงรบกวน ไม่สามารถอาศัยอยู่ในห้องได้ จึงมีความจำเป็นต้องเช่าโรงแรมเพื่อพักอาศัย

เมื่อโพสต์ดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปแล้วนั้น ด้านชาวเน็ตอ่านแล้วเห็นพ้องว่า ถ้าปัญหาอยู่ที่ท่อของเมนหลักคอนโด ทางคอนโดต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่เจ้าของห้อง พร้อมกับแนะนำให้ไปลงบันทึกประจำวันก่อน ต่อให้นิติคอนโดกับประกันหมดสัญญา ก็ต้องรับผิดชอบ เพราะเหตุการณ์นี้เกิดในช่วงระยะสัญญาประกัน แต่ทว่ามีสิ่งที่น่าสะพรึงยิ่งกว่า คือ มีปลั๊กพ่วงอยู่ที่พื้น โชคดีที่น้ำไม่ท่วมปลั๊ก มิเช่นนั้นอาจเกิดโศกนาฏกรรมไฟดูดตอนเข้าไปดูได้

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก Besty Kewalee

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ