วันที่ 12 สิงหาคม 2567 ในขณะที่ร.ต.อ.วรวิทย์. ซุยลา รองสว.สว.สภ.ทุ่งฝน กำลังปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนเวรประจำวัน สภ.ทุ่งฝน อำเภอทุ่งฝน จังหวัดอุดรธานี อยู่นั้นได้รับแจ้งจาก ร.พ.ทุ่งฝน เรื่องขอความช่วยเหลือให้พาไปรับผู้บาดเจ็บบ้านเลขที่ 315 หมู่2 ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี เนื่องจากผู้บาดเจ็บถูกยิงด้วยอาวุธปืน ร้อยเวร2-0 พร้อมชุดสายตรวจ ออกไป ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงประสานขอความช่วยเหลือไปที่มูลนิธิสว่างเมธาธรรมอุดรธานีจุดบริการอำเภอทุ่งฝน ให้พาเข้าไปจุดที่เกิดเหตุ

นายวีรยุทธ. ศรีชัยมูล เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างเมธาธรรมอุดรธานีได้เล่าว่า เมื่อคืนได้รับแจ้งจากวิทยุศูนย์สั่งการอุดรว่าให้พา จนท.พยาบาลไปรับคนบาดเจ็บจากการถูกยิงได้รับบาดเจ็บเพื่อไปทำการรักษา จากการจากการสอบถามผู้บาดเจ็บได้ทราบว่า ตนเองไปซื้อของที่ร้านค้า แล้วมีวัยรุ่นมายิงจนได้รับบาดเจ็บหน้าร้านค้าแล้วหลบหนีไป โดยไม่ทราบว่าเป็นใคร ตนจึงพา จนท.เข้าไป ซึ่งเป็นชุมชนเล็กๆอยู่ในป่า นำส่งรพ.ทุ่งฝน

เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบ นายศรันยู มูลเมือง (เฟรม)อายุ 17 ปี บ้านเลขที่ 315 หมู่2 ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี นอนอยู่ภายในห้องนอน ได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าขวา สอบถามผู้บาดเจ็บเบื้องต้น ได้เล่าว่าช่วงเวลา 01.10 น. ตนจะออกไปซื้อของพอถึงปากซอยหน้าบ้าน มีวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ (ไม่ทราบยี่ห้อ) มา 2 คน สวมหมวกกันน๊อคปิดบังใบหน้า ได้ใช้อาวุธปืนยิงมาใส่ตน จำนวน 1 นัด ก่อนขี่รถหลบหนี เจ้าหน้าที่ ร.พ.ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งรักษาตัวที่ ร.พ.ทุ่งฝน และถูกส่งตัวไปทำการรักษา ที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี

ในเวลาต่อมา ช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวนสภ.ทุ่งฝน ได้เข้าไปบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อทำการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและสอบสวนพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ พบวัยรุ่นนอนอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ จำนวน 8 คน ได้ทำการสอบสวนและตรวจห้องที่เกิดเหตุ พบมีคราบเลือดบนที่นอน และพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก เบอร์ 12 วางอยู่บนหลังตู้เสื้อผ้า จึงยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมกับสอบถามวัยรุ่น ถึงเหตุการณ์ เมื่อคืน ทีละคน

ในเวลาดังกล่าว มีนางสุมาลี หงษ์ทอง อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นแม่ของ เฟรม ผู้ บาดเจ็บจากการถูกยิง ได้ร้องไห้ พร้อมกับเล่าว่า ตนเป็นพนักงานร้านเนื้อย่างที่จังหวัดขอนแก่น ได้ค่าจ้างแรงงาน วันละ 400 บาท เมื่อได้เงินค่าแรงจะโอนมาให้ลูกทันที 400 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของแต่ละคน เนื่องจากมีลูก 4 คน และทุกๆปีเมื่อถึงวันแม่ ตนจะกลับมาบ้านโดยจะแจ้งให้ลูกได้ทราบว่า แม่จะกลับวันไหนอย่างไร แต่ปีนี้ ตนกลับได้รับแจ้ง ว่าลูกชายถูกยิงตกใจมาก ยังคิดไม่ออกว่าใครทำไมใจดำมาทำกับลูกของตนขนาดนี้ รีบกลับมาบ้านทันที

ทางด้านแฟนสาวของผู้บาดเจ็บ(เอิร์น เสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงสีแดง) ที่อยู่ในห้องด้วยกันได้เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุหนูนอนหลับ ส่วน พี่เฟรมจะออกไปซื้อของ สักพัก เสียงเอะอะ เพื่อนบอกว่า พี่เฟรมถูกยิง ตนจึงออกมาดู พบถูกยิงที่ขา พี่เปรมเล่าว่า กำลังจะออกไปซื้อของพอถึงปสกทางเข้าบ้าน มีวัยรุ่น 2 คน สวมหมวกกันน็อค สวมเสื้อแขนยาว ขี่รถมอเตอร์ไซค์มายิง ตรงปากทางเข้าบ้าน เมื่อเพื่อนๆรู้ จึงช่วยกันปฐมพยาบาล และแจ้ง 1669 ให้มาช่วยเหลือ

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนวัยรุ่นที่อยู่ในที่เกิดเหตุ สอบถาม แต่ละคนให้ปากคำมีพิรุธ แตกต่างกันออกไป กระทั่ง ในที่สุด จึงยอมเปิดปากให้การรับสารภาพว่า พี่เฟรมทำปืนลั่นโดนขาตนเอง แล้วบอกพวกตนต่อๆมาว่า ถูกคนร้ายมาดักยิง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอบปากคำทุกคน และทุกคนให้การวกไปวนมาไม่ตรงกันสุดท้าย จึงรับสารภาพว่า ปืนลั่น

เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงนำวัยรุ่นทั้งหมดไปที่ สภ,ทุ่งฝนเพื่อทำการสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและหาอาวุธปืนปริศนาที่ ยังหาไม่เจอ

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดอุดรธานี รายงาน