ตำรวจสอบสวนกลาง(CIB) จับกุมผู้ต้องหาคดีอาวุธปืน 2 ราย
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.นโรตม์ ยุวบูรณ์, พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ รอง ผกก.2 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.พุทธางกูร เรืองธรรม สว.ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล. ร่วมกันจับกุม
1. นายวิมิตรฯ หรือชา อายุ 69 ปี ฐานความผิด มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
2. นายกฤษดาฯ หรือบังมิตร อายุ 33 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ 81/2567 ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 ฐานความผิด สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และได้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันฐานจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่ง (ยาบ้า) โดยได้รับอนุญาต
ของกลาง
1. อาวุธปืนสั้น ชนิดลูกโม่ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก
2. เครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 6 นัด บรรจุอยู่ในโม่ (ของกลางลำดับที่ 1)
3. เครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 8 นัด ใส่อยู่ในกล่องกระดาษสีขาว-ม่วง (ของกลางลำดับที่ 1 – 3 ของผู้ต้องหาที่ 1)
สถานที่จับกุม ม.8 ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์
พฤติการณ์ (ผู้ต้องหาที่ 1) สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่า ที่บ้านหลังหนึ่ง ม.8 ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบฯ มีการมั่วสุมและมีอาวุธปืน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ ทำการสืบสวนและดำเนินการขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ ค.346/2567 ลงวันที่ 9 สิงหาคม 2567
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้นำหมายค้นของศาล เดินทางไปตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว เมื่อเดินทางไปถึงบ้านหลังดังกล่าว พบนายวิมิตรฯ หรือชา ยืนอยู่หน้าเพิงพักไม่มีเลขที่ ซึ่งอยู่ถัดจากบ้านไปประมาณ 50 เมตร จึงได้เรียกให้ นายวิมิตรฯ ออกมาพบ และแสดงหมายค้นของศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้นายวิมิตรฯ ตรวจสอบดูพบว่าเป็นชื่อและบ้านเลขที่ถูกต้องตรงกันกับหมายค้นดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ขอทำการตรวจค้นที่ตัวของนายวิมิตรฯ ที่บ้านและเพิงพักหลังดังกล่าว
จากการตรวจค้นพบของกลาง อาวุธปืนสั้น ชนิดลูกโม่ จำนวน 1 กระบอก, เครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 6 นัด บรรจุอยู่ในโม่ และเครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 8 นัด ใส่อยู่ในกล่องกระดาษสีขาว-ม่วง ซุกซ่อนอยู่ใต้หลังคาของเพิงพักที่เกิดเหตุ สอบถาม นายวิมิตรฯ รับว่าอาวุธปืนดังกล่าวเป็นของตนเอง โดยอาวุธปืนดังกล่าวตนได้มารับมาจากพ่อเมื่อนานหลายปีมาแล้ว โดยตนไม่เคยได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนจากนายทะเบียนมาก่อน
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้นายวิมิตรฯ ทราบว่ามีความผิดฐาน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต และแจ้งให้ทราบว่าผู้ต้องหามีสิทธิที่จะไม่ให้การหรือให้การก็ได้ และคำให้การของผู้ต้องหาใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดี และมีสิทธิที่จะพบและปรึกษาผู้ซึ่งจะเป็นทนายความ และให้โอกาสในการแจ้งให้ญาติหรือบุคคลที่ตนไว้วางใจทราบถึงการจับและสถานที่ควบคุมเท่าที่พอจะทำได้ และไม่เป็นการขัดขวางการจับกุม
โดยได้แจ้งให้ผู้ต้องหาทราบแล้ว ณ สถานที่จับกุมผู้ต้องหาทราบรายละเอียดแห่งการกระทำผิด และข้อกล่าวหาพร้อมทั้งสิทธิดังกล่าวข้างต้นแล้ว ขอให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ด้วยความสมัครใจโดยปราศจากการบังคับขู่ หลอกลวง หรือการทรมานใดๆ จึงได้นำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวน้อย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
(ผู้ต้องหาที่ 2) สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ 81/2567 ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และได้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันฐานจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่ง 1 (ยาบ้า) โดยได้รับอนุญาต ทราบชื่อคือ นายกฤษดาฯ หรือบังมิตร อายุ 33 ปี
ต่อมาวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้เดินทางไปตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว เมื่อเดินทางไปถึงพบ นายสุรินทร์ฯ ซึ่งเป็นบิดาของนายกฤษดาฯ (ผู้ต้องหา) อยู่ภายในบ้านและได้ออกมาแสดงตนเป็นเจ้าบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและได้แสดงหมายค้นของศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ ค.345/2567 ลงวันที่ 9 สิงหาคม 2567 ให้นายสุรินทร์ฯ ตรวจสอบดูพบว่าเป็นชื่อและบ้านเลขที่ถูกต้องตรงกันกับหมายค้นดังกล่าว จากนั้นได้สอบถามนายสุรินทร์ฯ (บิดา) ได้แจ้งว่านายกฤษดาฯ หรือบังมิตร (ผู้ต้องหา) ซึ่งเป็นลูกชายนอนอยู่ภายในห้องนอน จึงได้เรียกนายกฤษดาฯ ออกมาพบและ ขอทำการตรวจค้นที่ตัวของนายกฤษดาฯ
ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้แสดงหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ 81/2567 ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 ให้นายกฤษดาฯ ตรวจสอบดู พบว่าเป็นชื่อ - สกุล ของตน ถูกต้องตรงกันกับหมายจับดังกล่าว และตนไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้
นายกฤษดา ฯ ทราบว่ากระทำความผิดฐาน สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และได้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันฐานจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่ง ๑ (ยาบ้า) โดยได้รับอนุญาต ตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ 81/2567 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 และนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวน้อย เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย สอบถามคำให้การผู้ต้องหา (ผู้ต้องหาที่ 1) ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา (ผู้ต้องหาที่ 2) ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน