ขอขมากรรมบุพการี หรือจะพ่วงด้วยการขอความสำเร็จราบรื่นรุ่งเรือง และให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยอันตรายทั้งปวง

บทอัญเชิญเทวดา

(ตั้งนะโม 3 จบ)

ข้าพเจ้าขอขมากรรม หากกรรมใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำแล้วผิดพลาดประการใดด้วยกาย ด้วยวาจา และใจก็ดี ตั้งแต่อดีตชาติเป็นต้นไปมาจบจนวันนี้ ทั้งที่ตั้งใจก็ดีไม่ตั้งใจก็ดี ทั้งที่ข้าพเจ้าระลึกได้ก็ได้ ทั้งที่ระลึกไม่ได้ก็ดี ทั้งที่ข้าพเจ้ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี รู้เท่าถึงการณ์ก็ดี ขอทุกๆ พระองค์จงโปรดเมตตาอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ

สิ่งของต้องเตรียม ขอขมากรรมพ่อแม่

พวงมาลัยดอกมะลิ 1 พวง

ธูปเทียนแพ 1 ชุด

น้ำสะอาด เตรียมล้างเท้า

น้ำอบ และ ดอกมะลิสด

หรือจะใช้ธูป 36 ดอก เพื่อบอกกล่าวเทวดาฟ้าดินก่อนก็ได้

(หากไม่มีทั้งหมดนี้ ก็สามารถกล่าวคำขอขมาด้วยปากเปล่าได้เช่นกัน)

เมื่อไหว้พระในบ้าน และสวดบทอัญเชิญเทวดาเป็นที่เรียบร้อย ให้กล่าวต่อหน้าคุณพ่อคุณแม่

วิธีการขอขมากรรม

ก่อนการขอขมากรรมกับคุณแม่และคุณพ่อ ให้ระลึกถึงสิ่งที่ตนเองเคยทำกับท่านทั้งที่รู้ตัวหรือไม่รู้ตัว ทั้งที่ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ทั้งที่เคยทำให้เจ็บช้ำน้ำใจ เคยทำให้ท่านต้องเสียน้ำตา หรือเคยโต้เถียงด้วยวาจาไม่ดี หรือแสดงการการทำใดๆ ที่ไม่ดีต่อท่านบอกท่านไป ว่าการกระทำในวันนี้จะเป็นการขอขมา ขออโหสิกรรมจากทั้งสอง โดยให้ท่านทั้งสอง ตอบรับการอโหสิกรรมให้กับเรา

บทกล่าวขอขมากรรมพ่อแม่

กายกัมมัง วจีกัมมัง มโนกัมมัง โยโทโส ที่ข้าพเจ้า.....(บอกชื่อ-นามสกุล) ที่ประมาทพลาดพลั้งทำผิดมาในชาตินี้ ตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบัน ข้าพเจ้าสำนึกแล้วในกรรมนั้น ขอให้พ่อและแม่ อโหสิกรรมให้กับลูกในทุกๆ เรื่อง

จากนั้นให้มอบพวงมาลัยที่เตรียมไว้ พร้อมกับก้มกราบเท้า และเมื่อได้รับคำยกโทษ หรือคำอโหสิกรรมจากบุพการีในทุกๆ เรื่องแล้วนั้น ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

และบางคนอาจจะเตรียมน้ำสะอาดผสมกับน้ำอบ พร้อมลอยมะลิในน้ำ เพื่อล้างเท้าให้ท่าน ระหว่างที่ล้างเท้าก็เอ่ยบทขอขมากรรมกับท่านได้เช่นกัน สามารถทำได้ด้วยวิธีการเช่นกันนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม บทขอขมากรรมนี้ สามารถใช้ได้ตลอดทุกเมื่อ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็สามารถทำได้ โดยการเตรียมและกล่าวแบบอย่างข้างต้นได้เลย

และนอกจากนี้หากใครอยากจะใช้วันนี้ในการจุดธูปขอขมากรรมของตนเอง ก็ยังสามารถทำได้เช่นกัน