อาถรรพ์บ้านเลขที่ 44! สามีไรเดอร์หึงเมียหมอนวด ปันใจให้ชายอื่น คว้าฆ้อนทุบหัวเมียดับสยอง ก่อนจบชีวิตตัวเองตาม

อาถรรพ์บ้านเลขที่ 44! สามีไรเดอร์หึงเมียหมอนวด ปันใจให้ชายอื่น คว้าฆ้อนทุบหัวเมียดับสยอง ก่อนจบชีวิตตัวเองตาม

เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2567 ร.ต.อ.ธีรพงษ์ ช่วยประสม รอง สว.(สอบสวน ) สน.คันนายาว ได้รับแจ้งเหตุฆาตกรรม ภายในบ้านเลขที่ 44 ซอยรามอินทรา 65 แยก 2-18 แขวงท่าแรง เขตบางเขน กรุงเทพฯ จึงรุดตรวจไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.คันนายาว เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.ตำรวจ และอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้สองชั้น ที่บริเวณห้องนอนชั้นล่างพบศพ นางณัชชานัทธิ์ ธัญลักษณ์โภคิน อายุ 49 ปี นอนคว่ำหน้า มีผ้าห่มคลุมร่าง เสียชีวิตมีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งที่ศีรษะ พบฆ้อนตกอยู่ในห้องนอน คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธในการสังหาร นอกจากนี้ ภายในบ้านยังพบศพนายสุรสีห์ สิงห์จันทร์ อายุ 58 ปี ผูกคอเสียชีวิต ตรงช่องระบายอากาศอยู่ภายในห้องครัวชั้นล่าง

จากการสอบสวนทราบว่า นางณัชชานัทธิ์ มีอาชีพเป็นหมอนวดประคบร้อนหลังคลอด ส่วนนายสุรสีห์ มีอาชีพเป็นไรเดอร์ขับรถส่งอาหาร โดยผู้เสียชีวิคทั้งสองรายเป็นสามีภรรยากัน อยู่กินกันมา 9 ปี เมื่อ จนกระทั่ง เมื่อช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา เพื่อนบ้านได้ยินเสียงผู้เสียชีวิตทั้งสองรายทะเลาะกัน แล้วก็เงียบไปจึงไม่ได้สนใจ เพราะก่อนหน้านี้ทั้งสองคนจะทะเลาะกันบ่อยครั้ง มาประมาณหนึ่งเดือนแล้ว โดยตัวนายสุรสีห์ จะไม่ยอมออกไปรับออเดอร์จะคอยเฝ้านางณัชชานัทธิ์ อยู่ตลอดเวลา สาเหตุน่าจะเกิดจากการหึงหวง เนื่องจากสามีเข้าใจผิดว่าภรรยา แอบไปคุยกับผู้ชายอื่น

ทางด้าน นายธนศักดิ์ ลานเมฆ อายุ 58 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ตนกับนางณัชชานัทธิ์ เป็นเพื่อนกันมาหลายปีแล้ว มาช่วงหลัง ตนจะเป็นคนรับจ้างคอยไปส่ง นางณัชชานัทธิ์ ยังสถานที่ต่าง ๆ ที่ลูกค้านัด โดยวันนี้ ได้นัดกันจะไปส่งหาลูกเวลา 10.00 น. ที่ย่านสำโรง แต่พบความผิดปกติว่า ผู้เสียชีวิตไม่ออกตามนัด จึงไปเรียกที่หน้าบ้านแต่บ้านล็อคประตูจากด้านใน โดยเรียกเป็นเวลานานเห็นว่าผิดปกติ บอกกับทางญาติให้เข้าตรวจสอบ จากนั้นญาติจึงตัดสินใจงัดประตูเข้าไป และพบว่าได้เสียชีวิตทั้ง 2 คนแล้ว จึงได้รีบโทรแจ้ง 191 ทันที

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ตนเคยมีปัญหากับนายสุรสีห์ เนื่องจากนายสุรสีห์เข้าใจผิดว่า ตนกับนางณัชชานัทธิ์ มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน เพราะเห็นว่าตนขับรถ จยย.มารับส่งเป็นประจำ แต่ก็ได้มีการพูดคุยปรับความเข้าใจกันแล้วเมื่อช่วง 3 เดือนก่อน และไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จะต้องสอบสวนพยานและเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบหาชนวนเหตุในการก่อเหตุในครั้งอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากนำร่างทั้งสองส่งชันสูตรศพ นิติเวช รพ.ตำรวจ ก่อนจะมอบศพให้ทางญาตินำไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป

ทั้งนี้ ยังมีรายงานว่า บ้านเลขที่ 44 หลังดังกล่าวมีคนเสียชีวิตมาเเล้ว ซึ่งเป็นเครือญาติ ของหญิงที่เสียชีวิต มีทั้ง หกล้มหัวฟาดพื้นเสียชีวิต ,เป็นมะเร็งเสียชีวิตและไหลตาย รวมทั้งหมด 9 ศพ ในห้วง 10 ปีที่ผ่านมา

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ