ผู้ประกอบการเครื่องปรับอากาศ เจอพิษนำเข้าสินค้าจีน ทำธุรกิจชิ้นส่วนแอร์แห่ปิด 90%
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ที่กระทรวงพาณิชย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เปิดเผยว่า กรณีทุกฝ่ายกังวลปัญหาทุนต่างชาติโดยเฉพาะทุน และสินค้าจีนมารุกตลาดในไทยนั้น พณ.ไม่นิ่งเฉยต่อกรณีที่หลายฝ่ายวิตกกังวลเกี่ยวกับสินค้าที่นำเข้าจากจีนมาไทยเป็นจำนวนมาก และมองว่าสินค้าไม่มีคุณภาพนั้น โดยได้ไปพูดคุยกับท่านทูตจีนประจำประเทศไทยแล้ว ท่านทูตทราบปัญหาดี พร้อมที่จะหาแนวทางป้องกันร่วมกับไทย เพื่อให้คนไทยได้สินค้า มีคุณภาพมากขึ้น นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า ได้มอบปลัด พณ.ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้นำกฎหมาย และกฎระเบียบต่างๆ มาใช้ดูแลสินค้าที่นำเข้าจากจีน เน้นมีคุณภาพมากกว่าจะนำกฎหมายห้ามนำเข้าสินค้าจากจีนมาไทย
ก่อนหน้านี้ได้พูดคุย และมอบให้กระทรวงการคลัง กระทรวงดีอี กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพาณิชย์โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ร่วมกันดูแล แต่ละหน่วยงานจะดูกฎระเบียบและแนวทางในการดูแลอุตสาหกรรมในประเทศภายใต้กฎหมายที่มีอยู่ และอยู่บนพื้นฐานการค้าที่สมดุล “ยอมรับว่าการใช้มาตรการห้ามนำเข้าจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี ที่สำคัญการใช้มาตรการอะไรออกมาก็ต้องทำตามเงื่อนไขพันธกรณีตามข้อตกลงต่างๆ หรือไม่ หากไทยใช้มาตรการคุมเข้มยิ่งจะเป็นผลกระทบต่อสินค้าไทย ดังนั้น ไทยจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
หากเห็นว่าสินค้าจีนเข้ามาทุ่มตลาดจริง ให้ใช้มาตรการที่อยู่ในพันธกรณีตอบโต้ตามกฎหมายที่มีอยู่ และใช้กับทุกประเทศเหมือนกัน แต่ไม่ควรใช้มาตรการห้ามนำเข้า ห้ามกันไปห้ามกันมา การค้าก็จะเสียหาย ไม่ดีต่อทุกฝ่าย เราต้องเน้นทำให้สินคัาไทยดีเป็นที่ยอมรับ จะต้องพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น เพื่อให้สินค้าไทยเป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก” นายภูมิธรรม กล่าว นายภูมิธรรมกล่าวว่า เพื่อให้คนไทยทั่วประเทศได้ซื้อสินค้าคุณภาพดี ลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจ พณ.จะแถลงข่าวโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจในงานมหกรรมลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ในวันที่ 20 สิงหาคมนี้ หลังประชุม ครม.สัญจรที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จะเป็นงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่จะร่วมกันนำสินค้าอุปโภค และบริโภค มาจำหน่ายในราคาถูกกว่าท้องตลาด ในวันนี้ 9 สิงหาคม ได้หารือผู้บริหารขององค์กรต่างๆ
เพื่อร่วมมือกันในการลดภาระต้นทุน และค่าครองชีพที่จะจัดในช่วง 3 เดือน นายภูมิธรรมกล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดประเทศไปทำความเข้าใจร้านค้าทั่วไปให้รับรู้ข้อเท็จจริงของโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เมื่อเข้าร่วมโครงการจะมีผลดีอย่างไร พณ.จะแถลงถึงรายละเอียดของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตในส่วนของร้านค้าในวันที่ 25 กันยายนนี้ ก่อนที่จะเปิดให้ร้านค้าทั่วประเทศลงทะเบียนเข้าโครงการตามกรอบเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 นายภูมิธรรมกล่าวภายหลังหารือร่วมกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อจัดมหกรรมลดราคาสินค้า ตามโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล
โดยกำหนดจัดแคมเปญต่อเนื่อง 3 เดือน ระหว่างวันที่ 20 สิงหาคม – 20 พฤศจิกายน 2567 ว่า เบื้องต้นมีบริษัทเอกชนรายใหญ่ ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค และค้าปลีกค้าส่ง ยินดีเข้าร่วมโครงการจัดกิจกรรมแล้ว 150 ราย ผ่าน 3 กิจกรรม 6 แนวทางดำเนินงาน ได้แก่ 1.ลดต้นทุนผู้ประกอบการรายเล็ก ทั้งการลดค่าเช่าร้านค้าและค่าเช่าแผงตลาด จัดโปรโมชั่นกับร้านค้าออนไลน์ ลดค่าขนส่ง
ซึ่งได้รับความร่วมมือจากไปรษณีย์ไทย 2.เพิ่มพื้นที่จำหน่ายสินค้าให้รายเล็ก จัดตลาดพาณิชย์ทั่วประเทศ 76 จังหวัด ทั้งพื้นที่ในหน่วยงานรัฐและเอกชน 3.จับมือผู้ผลิตและค้าส่งรายใหญ่ ลดค่าครองชีพ ผ่านแคมเปญลดกระหน่ำ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ พร้อมจัดโปรโมชั่นทุกฤดูกาล โดยเป้าหมายของโครงการเพื่อลดรายจ่ายผู้ประกอบการรายเล็ก เพิ่มช่องทางการค้าขาย ลดภาระค่าครองชีพประชาชน กระตุ้นเงินให้หมุนเวียนในเศรษฐกิจ รวมถึง เตรียมความพร้อมกับโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
ซึ่งรายละเอียดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะนำแถลงวันที่ 20 สิงหาคมนี้ หลังประชุม ครม.สัญจรที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นายสมศักดิ์ จิตติพลังศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัยโจ เด็นกิ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องปรับอากาศยี่ห้อ “ซัยโจเด็นกิ” กล่าวว่า อุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากสินค้าจีนที่เข้ามาตีตลาด โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ซึ่งเป็นผู้ผลิตด้านอุปกรณ์ชิ้นที่เกี่ยวเนื่องกับเครื่องปรับอากาศ เช่น คอมเพรสเซอร์ มอเตอร์ พัดลม สายไฟ และอุปกรณ์ชิ้นส่วนต่างๆ ได้ปิดกิจการไปแล้วประมาณ 70-90% นับจากปลายปี 2566 ถึงปัจจุบัน ซึ่งบางรายก็เป็นซัพพลายเออร์ให้กับซัยโจเด็นกิด้วย
สาเหตุที่ปิดไป เนื่องจากยอดขายตกลงเรื่อยๆ ซึ่งจากเดิมอาจจะซัพพลายให้กับผู้ผลิตในประเทศ หรือผู้ผลิตต่างประเทศที่เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย แต่เมื่อมีสินค้าจากจีนเข้ามาจำนวนมาก จะหันไปซื้อจากจีนเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้ลูกค้าหายไป ประกอบกับต้นทุนก็สู้จีนไม่ได้ เพราะของจีนถูกกว่า 20-30% ล่าสุด มีผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศของจีนมาเปิดโรงงานผลิตที่นิคมอุตสาหกรรมในชลบุรี จะสร้างแรงสั่นสะเทือนทำให้ได้เปรียบด้านต้นทุน ทำให้ขายในราคาที่จะถูกลงมากขึ้น” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์กล่าวต่อว่า ปัจจุบันด้วยภาวะเศรษฐกิจ และรายได้คนที่ไม่เพิ่มขึ้นนั้น ส่งผลให้กำลังซื้อในตลาดยังซบเซา ทำให้ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าราคาถูกมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าจากจีน ซึ่งในส่วนของซัยโจเด็นกิเอง คงจะลดราคาลงมากไม่ได้ เพราะต้นทุนต่างกัน จึงหันไปพัฒนาและวิจัยสินค้าให้มีมูลค่า และประสิทธิภาพสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม อยากขอให้ภาครัฐมีการพิจารณาแก้ปัญหาเรื่องสินค้าจากจีนอย่างจริงจัง เพื่อช่วยเอสเอ็มอีของไทย