นิกกี้ขยี้ข่าว พร้อมทีมทนายแจ้งความเอาผิด ประธานมูลนิธิสาว กรณีนำเจ้าหน้าที่ พม.มาพาลูกไปจากที่พัก

นิกกี้ขยี้ข่าว พร้อมทีมทนายแจ้งความเอาผิด ประธานมูลนิธิสาว กรณีนำเจ้าหน้าที่ พม.มาพาลูกไปจากที่พัก

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา น.ส.ศรินทิพย์ เวนไรท์ อายุ 40 ปี หรือ นิกกี้ขยี้ข่าว พร้อมทีมทนาย มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนสน.ประชาชื่น เพื่อแจ้งความเอาผิด ประธานสาว ใน ข้อหาพรากผู้เยาว์ พรบ.คุ้มครองเด็ก และ พรบ.คอมฯ กรณีนำเจ้าหน้าที่ พม. มาพาลูกไปจากที่พัก และแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา

ว่าที่ร้อยตรี รภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ระบุว่า วันนี้ทางมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมได้รับเรื่องร้องเรียนจากคุณนิกกี้ขยี้ข่าว หลังพบการกระทำที่ตัวของนิกกี้เองรับไม่ได้หลังมีกลุ่มองค์กรหนึ่งที่ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาพรากลูกของตนเองไป จากนั้นได้มีการไปดำเนินการทางกฎหมายกับตัวคุณนิกกี้ ซึ่งทางคุณนิกกี้ได้นำพยานหลักฐานเข้ามาร้องเรียนกับทางมูลนิธิฯ ซึ่งทางมูลนิธิมองดูแล้วอาจจะเป็นประเด็นของการพรากผู้เยาว์ รวมไปถึงข้อกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย วันนี้จึงพาผู้เสียหายพร้อมทนายความ ที่ปรึกษาทนายมูลนิธิฯ นำหลักฐสนทั้งหมดเพื่อเข้าแจ้งความ ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในกระบวนการนี้ ประกอบไปด้วยประธานสาว และพวกทั้งหมด

น.ส.ศรินทิพย์ หรือ นิกกี้ เล่าว่า ก่อนหน้านี้มีการตีลูกจริงแต่ก็เป็นการสัางสอนตามปกติ และก่อนที่จะเอาลูกเราไปนั้นมีการสอบลูกเราหรือยังว่าเราได้กระทำความรุนแรงกับลูกหรือไม่ จนทุกวันนี้ก็ยังมีการใส่ไฟอยู่ เราไม่อยากให้ไปทำแบบนี้กับครอลครัวไหนอีกขอให้เป็นครอบครัวสุดท้ายที่ถูกละเมิดในการมาเอาลูกเราไป ส่วนการดำเนินคดีเราจะมีการดำเนินคดีกับนางนกต่ออักษร ต. ในข้อหาพรากผู้เยาว์ ซึ่งคนนี้เป็นคนที่คอยเสี้ยมลูก คนที่สอง จะเป็นท่านประธานสาวข้อหาพรากผู้เยาว์พรบ.คอมพิวเตอร์ และมาตรา 27 ส่วนคนสุดท้าย จะเป็นในส่วนของการดำเนินคดีเจ้าหนี้ปมในความผิดมาตรา 157 และพรากผู้เยาว์ ส่วนจะมี การดำเนินคดีกับผู้ใดเพิ่มเติมนั้นต้องรอทางการสอบสวนของ เจ้าหน้าที่ตำรวจ

เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มกราคม แต่ที่ต้องมาแจ้งความตอนนี้เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางตัวเค้าเองมีชื่อเสียง และเป็นอินฟูเอนเซอร์ชื่อดังมีแฟนคลับเยอะ ถ้าทำอะไรลงไปเกรงว่าจะทัวร์จะมาลง ก่อนแต่ตอนนี้มีการกระชากหน้ากากประธานสาวออกมา และยังมีเรื่องอื่นๆตามเข้ามาด้วย จึงตัดสินใจอแกมา ซึ่งก็ไม่ใช่มีแค่ตนเองที่โดนยังมีคนอื่นๆที่โดนแบบนี้เช่นกัน

เราไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ พม. กระทำแบบนี้ในการที่มีบุคคลที่มีชื่อเสียง มีอินฟลูเอนเซอร์ มาบอกให้กระทำการละเมิดสิทธิ์กับคนอื่น เราไม่อยากให้ พม.ตกเป็นเหยื่อของคนเหล่านี้ และตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่เคยถูกเจ้าหน้าที่ พม. เรียกไปสอบแต่อย่างใดรวมถึงไม่เคยให้ข้อมูลใดๆเกี่ยวกับลูกเราเลยตั้งแต่เอาลูกเราไป อย่าแค่เห็นว่าคดีนี้เป็นคดีดัง หรือไม่ชอบเราแล้วมาทำแบบนี้มันไม่ถูก

ด้านชาญชัย ฉายบุ ที่ปรึกษามูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า การดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องมีทั้งหมด 3 ส่วน ส่วนแรกเป็นตัวประธานมูลนิธิสาวจะถูกดำเนินคดีในเรื่องของการพรากผู้เยาว์ ตามมาตรา 317 กฎหมายอาญา พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปจากพ่อแม่ มาตรา 27 พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ซึ่งเป็นการโฆษณาหรือเผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือสื่ออื่นๆทำให้เด็กหรือพ่อแม่เด็กเกิดความเสียหาย และการนำเข้าข้อมูลปลอมบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตามมาตรา 14 (1) พรบ.คอมพิวเตอร์ 2550 ส่วนที่สอง นาย ต. จะถูกแจ้งเอาผิดข้อหาพรากผู้เยาว์เด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปจากพ่อแม่ และส่วนที่สาม เป็นเจ้าหน้าที่ พม. ที่ถูกแจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์เด็กไม่เกิน 15 ปี และ มาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดย มิชอบในประการที่ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ทั้งนั้นทางมูลนิธิจะดูว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องเพิ่มเติมหรือไม่หากพบมีผู้กระทำผิดเพิ่มเติมก็จะมีการดำเนินคดีด้วยเช่นกัน

ว่าที่ร้อยตรี รภัสสิทธิ์ ยังกล่าวอีกว่า ฝากไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพอมอมอให้กำชับผู้ใต้บังคับบัญชาโดยเฉพาะคนที่มีหน้าที่เกี่ยวกับเด็กและเยาวชนการที่จะเข้ามาทำอะไรก็แล้วแต่กับอินฟลูเอนเซอร์ ภาคเอกชนต้องตระหนักถึงข้อกฎหมายด้วยว่าเหตุที่มีลักษณะแบบนี้จะสามารถเอาเด็กออกมาหรือไม่ ถ้าไม่เข้าก็จะเกิดความวุ่นวายหากมี การไปร่วมมือกับกลุ่มบุคคลเหล่านี้ก็จะทำให้เกิดปัญหาในภายหลัง

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ