รถหรูซิ่งผ่าไฟแดง ชนเก๋ง เจ็บ 10 ราย สาว 23 ตั้งท้องแปดเดือนเสียชีวิตพร้อมลูกในท้อง
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ความคืบหน้าเหตุสะเทือนใจที่เกิดขึ้นช่วงเย็นวันที่ 3 สิงหาคม โดยภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกวินาทีรถเก๋ง SUV ยี่ห้อฟอร์ด Territory ทะเบียนประเทศลาวป้ายเหลือง นร 5699 แขวงคำม่วน สปป.ลาว ขับมาบนถนนนิตโย นครพนม-สกลนคร ทางหลวงหมายเลข 22 ฝั่งมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองนครพนม แล้วฝ่าไฟแดงชนรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีขาว ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ที่ขับมาจากตัวเมืองนครพนม มีผู้บาดเจ็บรวม 10 คน แบ่งเป็น ผู้โดยสารจากรถเก๋งสีขาว 7 ราย ทั้งหมดเป็นครอบครัวเดียวกัน โดยผู้บาดเจ็บที่อาการหนักสุดคือคนนั่งเบาะซ้าย ทราบชื่อคือ น.ส.วิชุดา หรือ บี อายุ 23 ปี ผู้ช่วยพยาบาล ประจำห้อง ICU โรงพยาบาลนครพนม ซึ่งตั้งครรภ์ 8 เดือนใกล้คลอด เจ้าหน้าที่เร่งส่งรักษาที่ รพ.นครพนม ก่อนจะเสียชีวิตทั้งแม่และลูกในครรภ์ในเวลาต่อมา ส่วนผู้บาดเจ็บที่เหลือคือลูกสาว อายุ 5 ขวบ รวมถึงสามี น.ส.วิชุดา เป็นคนขับ แม่และหลานบาดเจ็บสาหัส ขณะที่รถยนต์ชาวลาวมีผู้หญิงนั่งมา 3 คน รวมคนขับ ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน แต่อาการปลอดภัย
ล่าสุด นายสมิง อายุ 56 ปี พ่อของน้องบี เดินทางไปรับร่างลูกสาวกับหลานสาวที่ รพ.นครพนม โดยแพทย์ ผ่าคลอดเด็กออกมา เป็นทารกเพศหญิง สภาพร่างกายสมบูรณ์ นายสมิงร่ำไห้ กอดและหอมแก้มหลาน ก่อนบรรจุร่างลูกและหลานใส่โลง ตั้งเคียงข้างกันในบ้านพักที่ประกอบพิธีทางศาสนา ญาติผู้เสียชีวิตระบุว่า ยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยิ่งดูคลิปยิ่งสะเทือนใจ เพราะรถยนต์ชาวลาวคู่กรณีฝ่าไฟแดงชัดเจน ที่สำคัญยังติดใจเนื่องจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ยังไม่ชี้ชัดว่าใครผิด ทั้งที่หลักฐานชัดเจน ทิ้งภาระให้ญาติไปหาหลักฐานมาเพิ่ม หวั่นว่าคดีไม่คืบหน้า เนื่องจากทราบมาว่าคู่กรณีเป็นคนมีฐานะ มีบารมีทางฝั่งลาว เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
ญาติผู้เสียชีวิตกล่าวด้วยว่า หลังเกิดเหตุยังไม่มีญาติคู่กรณีมาเจรจา อีกทั้งยังฝากบอกมากับคนรู้จักว่าจะจ่ายค่าเยียวยาแค่หลักหมื่น จึงต้องการให้ตำรวจชี้ชัดว่าใครผิดใครถูก เพราะมีหลักฐานชัดเจน และขอให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมเยียวยาตามกระบวนการยุติธรรม นายสมิงเปิดเผยว่า ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เศร้ากับครอบครัว ตนทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ประจำห้องเอกซเรย์ รพ.นครพนม วันเกิดเหตุกำลังทำงานอยู่ พอรู้ข่าวจึงรีบไปดูสภาพลูกสาว ภรรยา และหลาน ที่นั่งรถไปด้วยกัน แทบช็อก
ภาวนาอย่าให้เลวร้ายไปกว่านี้ แต่สุดท้ายปาฏิหาริย์ไม่มี ลูกสาวเสียชีวิตพร้อมหลานสาวที่อยู่ในท้อง ยอมรับว่ายังติดใจการทำงานของตำรวจ กังวลใจเพราะคู่กรณีเป็นชาวลาว เป็นรถยนต์ลาว เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่ได้รับการชดเชยเยียวยาตามกฎหมาย หลังเกิดเหตุยังไม่มีญาติคู่กรณีมาถามไถ่เลย วอนตำรวจดำเนินคดีตรงไปตรงมา เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่าใครผิดใครถูก จะต้องฟันธง เพื่อความเป็นธรรมสำหรับครอบครัวที่สูญเสียครั้งใหญ่