รวบแม่เล้าค้ากามเด็ก 16 หลบหนีกบดานตั้งหลักข้ามจังหวัด สุดท้ายจนมุมคาห้องเช่า
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม น.ส.เนตรชนกฯ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 3324/2567 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน 1. ค้ามนุษย์โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อขาย จำหน่ายพามาจากหรือส่งไปยังที่โดยจัดให้อยู่อาศัยหรือรับไว้ซึ่งเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยกระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี, 2. เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี โดยกระทำแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีแม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม, 3. เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง โดยกระทำแก่บุคคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม, 4. กระทำด้วยประการใดๆ โดยการช่วยเหลือ ให้ความสะดวก หรือคุ้มครองการค้าประเวณีของผู้อื่น รับประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดจาการค้าประเวณีของผู้อื่นหรือจากผู้ซึ่งค้าประเวณีและจัดให้มีการค้าประเวณีระหว่างผู้ซึ่งค้าประเวณีกับผู้ใช้บริการ, 5. โดยทุจริตรับไว้จำหน่าย เป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือพาไปซึ่งบุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม, 6. พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกิน สิบแปดปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เรานั้นเต็มใจไปด้วย, 7. ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด สถานที่จับกุม บริเวณหน้าห้องเช่า ในซอยหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
พฤติการณ์ สืบเนื่องมาจาก เมื่อประมาณ เดือนมิถุนายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม. ได้ทำการสืบสวนเกี่ยวกับขบวนการค้าประเวณีเด็ก ในพื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ซึ่งในครั้งนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม. ได้ทำการจับกุมตัวแม่เล้าที่นำเด็กออกค้าประเวณี หญิงสาวที่ค้าประเวณี และช่วยเหลือเด็ก ที่ตกเป็นเหยื่อจากการค้าประเวณี เข้าสู่กระบวนการคุ้มครองตามกฎหมาย จึงได้ทำการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อออกหมายจับแม่เล้ารายอื่นที่อยู่ในขบวนการ อีกหลายราย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม. ได้ติดตามพฤติกรรมและทำการสืบสวนเก็บข้อมูลของแม่เล้า ในขบวนการอยู่เป็นระยะ ซึ่งเมื่อประมาณ ต้นปี 2567 น.ส.เนตรชนกฯ (ผู้ต้องหา) รู้ตัวว่าต้องโดนดำเนินคดี จึงได้หลบหนีออกจากพื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ทันที และมาเช่าโรงแรมราคาถูก ในพื้นที่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ไว้พักอาศัย โดยเปลี่ยนที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง ทำการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์อยู่หลายครั้ง เพราะเชื่อว่าหากใช้เบอร์เดิม เจ้าหน้าที่ตำรวจอาจตามตัวได้
และก่อนที่จะศาลอาญาจะอนุมัติหมายจับเพียงไม่กี่วัน น.ส.เนตรชนกฯ พร้อมกับแฟนหนุ่ม ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์เที่ยวเตร่ในเวลากลางคืน จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในพื้นที่ เรียกทำการตรวจสอบเนื่องจากใช้รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และตรวจยึดรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไว้ เพื่อให้นำเอกสารการครอบครองรถจักรยานยนต์มาแสดงเพื่อรับรถคืน และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบประวัติคดีอาญาของ น.ส.เนตรชนกฯ ในฐานระบบข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่ามีข้อมูลคดีค้ามนุษย์อยู่ แต่อยู่ระหว่างดำเนินการขออนุมัติศาลออกหมายจับ ทำให้ น.ส.เนตรชนกฯ รู้ตัวว่ากำลังจะถูกออกหมายจับ น.ส.เนตรชนกฯ พร้อมกับแฟนหนุ่ม จึงได้พากันเก็บเสื้อผ้าหลบหนีออกจากพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ไปยังพื้นที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และมาเช่าห้องพักราคาถูกพักอาศัย โดยปิดเบอร์โทรศัพท์อีกครั้ง และให้เพื่อนเปิดเบอร์โทรศัพท์ให้ใหม่ ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม. ได้เดินทางมายัง พื้นที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ใกล้เคียง วัดบางพลีใหญ่กลาง เพื่อติดตามจับกุมตัว น.ส.เนตรชนกฯ จนกระทั่งทราบว่าหลบหนีมาเช่าห้องพักอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางกำลังเฝ้าทางเข้าออก จนพบตัว น.ส.เนตรชนกฯ และทำการจับกุมตัวในที่สุด
จากการพูดคุยสอบถาม น.ส.เนตรชนกฯ รับสารภาพตลอดกล่าวหา รับว่าตนเป็นแม่เล้านำเด็กออกขายบริการทางเพศจริง และได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับขบวนการค้าประเวณีเด็กอีกหลายราย รวมถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ อีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม. จึงได้ตรวจยึดโทรศัพท์ของ น.ส.เนตรชนกฯ ไว้เพื่อทำการ เก็บข้อมูลและส่งตรวจเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.ปริญญา รักษาแก้ว สว.กก.5 บก.ปคม. โทร. 093-196-6656
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน