ด่วน แอปทางรัฐ ใช้งานไม่ได้ เช็กเวลาเปิดเข้าใช้งานรอบใหม่

ด่วน แอปทางรัฐ ใช้งานไม่ได้ เช็กเวลาเปิดเข้าใช้งานรอบใหม่

เมื่อเวลา 14.10 น. วันที่ 31 ก.ค.67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวถึงกรณีแอปพลิเคชัน ทางรัฐ ล่ม ในวันเดียวกันนี้ (31 ก.ค.) ว่า ขณะนี้อยู่ในกระบวนการของทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะรายงานเข้ามา ทั้งนี้ ในช่วงเวลา 19.00-22.00 น. ของวันเดียวกันจะมีการอัพเดตเวอร์ชั่น ที่เป็นระบบรอคิวในการที่จะไปเช็กกับทะเบียนราษฎร์ เพราะตอนนี้ในตัวของแอปฯ ยังไม่มีระบบรอคิว ซึ่งระบบจะถูกปิดในช่วงเวลาดังกล่าว ยืนยันไม่ใช่เพราะระบบล่ม โดยทุกอย่างจะพร้อมในเวลา 08.00 น. ของวันที่ 1 ส.ค.67

เมื่อถามว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องการยืนยันตัวตน นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า เป็นการรีเซ็ตตัวแอปฯ ให้มีการอัพเดตเวอร์ชั่น ซึ่งมีการวางแผนไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว จึงแจ้งกับประชาชนว่า ให้เริ่มวันที่ 1 ส.ค. เวลา 08.00 น.

เมื่อถามว่า วันที่ 1 ส.ค. จะมีคนลงทะเบียนค่อนข้างเยอะ ระบบจะไม่ล่มใช่หรือไม่ นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ความพร้อมของระบบได้ถูกวางแผนไว้แล้วว่าต้องมีการเซ็ตระบบ เพื่อให้เป็นระบบรอคิว เพื่อที่จะส่งไปที่ทะเบียนราษฎร์ ตนเคยแจ้งไปแล้วว่าระบบต้องใส่เลขบัตรประชาชน ตรวจสอบใบหน้าบุคคลก่อนส่งไปทะเบียนราษฎร์ และต้องตอบกลับมาจากทะเบียนราษฎร์ก่อน ซึ่งต้องใช้เวลาเป็นระบบรอคิว จากนั้นจึงจะเข้ากระบวนการสร้างยูสเซอร์เนมและพาสเวิร์ด จึงจะถือว่าจบกระบวนการ

เมื่อถามว่า อยากฝากหรือแจ้งอะไรกับประชาชนที่วันที่ 1 ส.ค. จะมีการแห่กันลงทะเบียน ซึ่งอาจเกิดความล่าช้า และขัดข้องได้ นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า หากเกิดความล่าช้า ไม่ใช่เพราะตัวแอปฯ แต่ล่าช้าด้วยการรอคิว เพื่อตรวจทะเบียนราษฎร์ ซึ่งระบบจะทำหน้าที่รับคนอยู่แล้ว และหากเกินกว่า 5 ล้านคน ก็จะเป็นระบบรอคิว

เมื่อถามว่า หากครบเวลาที่กำหนดแล้ว ประชาชนบางส่วนยังไม่สามารถลงทะเบียนได้ จะมีการขยายระยะเวลาหรือไม่ นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ทุกคนที่ต้องการจะลงทะเบียนจะต้องลงได้ เหตุผลอะไรที่จะลงไม่ได้ ยืนยันว่าแอปฯจะไม่มีปัญหา และระยะเวลาการลงทะเบียนจะเป็นไปตามกำหนดคือ 1 ส.ค. – 15 ก.ย. เพราะแอปฯจะไม่มีปัญหาแน่นอน

เมื่อถามว่า หากมีการย้ายทะเบียนบ้าน จะสามารถนำไปใช้ในพื้นที่ใหม่ได้หรือไม่ นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ที่อยู่ตามที่ประชาชนลงทะเบียน โดยนับ ณ วันลงทะเบียนว่า ทะเบียนราษฎร์อยู่ที่ไหนก็จะใช้ตรงนั้น

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ