ตากอ่วม! ฝนตกต่อเนื่องทำน้ำท่วมบ้านเรือน ทางทรุดสะพานขาด ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 500 หลังคาเรือน
วันที่ 28 ก.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวจังหวัดตาก รายงานว่า จากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรอินเดีย ส่งผลทำให้ฝนตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องหลายวันติดต่อกันทำให้น้ำในลำห้วยสาขาต่างๆ โดยเฉพาะแม่น้ำเมยซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักกั้นระหว่างประเทศไทย เมียนมา เอ่อล้นเข้าท่วมตามบ้านเรือนของพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำ โดยเฉพาะบริเวณริมน้ำเมยซึ่งไหลจาก อ.พบพระ อ.แม่สอด อ.แม่ระมาด และ อ.ท่าสองยาง
ในเวลาเดียวกันเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทหารราชมนู กองพลทหารราบที่ 4 ฉก ทหารพรานที่ 35 ตำรวจ ตชด 34 ปกครองท้องที่ หน่วยกู้ภัย หน่วยบรรเทาสามารถณภัยทุกท้องที่ ระดมกำลังเข้าพื้นที่วิกฤติเร่งส่งอาหาร น้ำดื่ม ปัจจัยหลัก ทั้งทางเรือ ทางรถยนต์ เท่าที่สามารถทำได้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนชาวบ้านมากกว่า 500 หลังเรือน
ล่าสุด มีรายงานแขวงการทางแม่สอด ที่ 2 นำกำลังเครื่องจักรเข้าปฎิบัติงาน นำท่อระบายน้ำ ดินลูกกรัง เข้าทับเส้นทางสาน 1090 แม่สอด แม่สะเรียง ซึ่งถูกตัดขาดมา 2 วันแล้ว โดยนายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก มอบหมายให้ นายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พร้อมด้วย ปภ.ตาก และผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำกัดเซาะบริเวณคอสะพานห้วยนกกก กม.68+784 ทางหลวง 105 ตอนห้วยบง - แม่สลิดหลวง ต.แม่หละ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก หลังจากมีฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่
เบื้องต้น รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ให้แล้วเสร็จสามารถใช้การได้ภายใน 24 ชั่วโมง ส่วนสิ่งที่ยังน่าเป็นห่วง ลำน้ำลำห้วยแม่สลิดหลวงที่ไหลผ่ากลางโรงเรียนบ้านแม่สลิดหลวงวิทยา ต.แม่สอง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ความแรงของลำห้วยแม่สลิด ทำให้น้ำกัดเซาะดินริมตลิ่ง ส่งผลทำให้อาคารประชาสัมพันธ์ ทรุดตัวพังลงบางส่วน หากฝนยังตกอย่างรุนแรงและมีน้ำยังไหลเชี่ยวแบบนี้ คาดว่าอาคารอื่นของโรงเรียน โดยเฉพาะอาคารธนาคารของโรงเรียนจะพังถล่มลงมาเพิ่มอีกด้วย
สำหรับสถานการณณ์โดยรวม ฝนเริ่มหยุดมาเป็นบางช่วง ทำให้ระดับน้ำเริ่มลดลง โดยเฉพาะแม่น้ำเมย ทำให้ทั้งฝั่งไทยและฝั่งเมียนมา เริ่มกลับมาสู่สภาวะปกติ แต่ยังคงทิ้งซากปลักหักพังของทรัพย์สิน รถยนต์ บ้านเรือนอาคารที่ได้รับความเสียหายจากดินโคลน ซึ่งต้องใช้เวลานานหลายสัปดาห์ หากไม่มีฝนมาเติมในช่วงนี้
ผู้สื่อข่าวจังหวัดตาก ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน