กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.อภิชน เจริญผล, พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ., ว่าที่ พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ., พ.ต.ท.นนทพัทธ์ ยอดแก้ว, พ.ต.ท.ภาสกร นภาโชติ, พ.ต.ท.ณธัชพงศ์ สินสิริยานนท์, พ.ต.ท.ชวลิต น้ำใจสัตย์ รอง ผกก.3 บก.ปอศ.

เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้น นำโดย ร.ต.อ.สุรพันธุ์ ตาขันทะ รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอศ., ร.ต.อ.ธนชัย พจน์โพธิ์ศรี รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอศ., ร.ต.อ.พงษ์เชษฐ์ นุ่มมาก รอง สว.กก.3 บก.ปอศ., ร.ต.ท.ชัยวิทย์ ศรจิตต์, ร.ต.ต.มีสิทธิ์ ม่วงไหมทอง, ร.ต.ต.ดนัย วีรวรรณ รอง สว.(ป.) กก.3 บก.ปอศ., ส.ต.อ.เจนภพ เตมิราช ผบ.หมู่ กก.3 บก.ปอศ.

นำกำลังเข้าตรวจค้นสถานที่

1. ห้องพักในซอยลาดพร้าว 85 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร ตามหมายค้นศาลอาญา ที่ 722/2567 ลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2567

2. ห้องพักในซอยลาดพร้าว 120 แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร ตามหมายค้นศาลอาญา ที่ 721/2567 ลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2567

3. บ้านพัก ซอยนิมิตใหม่ 40 แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร ตามหมายค้นศาลอาญามีนบุรี ที่ 457/2567 ลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2567

พร้อมตรวจยึดของกลาง

1. อุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ OPPO พร้อมซิมการ์ด จำนวน 2 เครื่อง

2. อุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Redmi พร้อมซิมการ์ด จำนวน 1 เครื่อง

3. สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 7 เล่ม

4. สมุดบันทึกข้อความสคริปต์การพูดชักชวนให้ลงทุน จำนวน 1 เล่ม

5. เอกสารที่เกี่ยวข้อง จำนวน 1 ชุด

สืบเนื่องจาก กก.3 บก.ปอศ. ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ขอให้ตรวจสอบข้อมูล เฟซบุ๊กที่มีการโฆษณาชักชวนให้ร่วมลงทุนกับกลุ่มบุคคลที่แอบอ้างและแสดงตนให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่าเป็นบุคคลซึ่งดำรงตำแหน่งกงสุลประจำประเทศไทย โดยมีการชักชวนลงทุนและเสนอให้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนโทเคนดิจิทัล AL ARAB หรือ ALA อ้างว่าจะได้รับกำไรและสิทธิประโยชน์พิเศษในอนาคต ซึ่งมีลักษณะเป็นการเสนอให้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลในนามตนเอง โดยกระทำเป็นทางค้าปกติและได้กระทำนอกศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ตามพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พุทธศักราช 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ได้ร่วมกันนำหมายค้นศาลอาญา และศาลอาญามีนบุรี ตรวจค้นสถานที่ข้างต้น จำนวน 3 แห่ง โดยจากการตรวจค้นพบนางสาวอัญฌณาฯ อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มบุคคลซึ่งอ้างตนว่าเป็นกงสุลประจำประเทศไทย และทำหน้าที่เกี่ยวกับการชักชวนลงทุนและเสนอให้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนโทเคนดิจิทัล AL ARAB ผ่านบัญชีเฟซบุ๊ก Anchana Srichai และได้ตรวจยึดอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่, สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 7 เล่ม ปรากฏเงินหมุนเวียนประมาณ 700,000 บาท, สมุดจดบันทึกข้อความซึ่งปรากฏเป็นสคริปต์เกี่ยวกับการชักชวนให้ลงทุนในเหรียญ AL ARAB และเอกสารที่เกี่ยวข้อ

ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบเอกสารแสดงตนเป็นกงสุล หรือเป็นบุคลากรที่สังกัดสถานทูต หรือเป็นเจ้าพนักงานในสังกัดกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงไม่พบข้อมูลเกี่ยวกับการได้รับอนุญาตความเห็นชอบจดทะเบียนกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดที่ตรวจพบนำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับนางสาวอัญฌณาฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

จากการสอบถามคำให้การเบื้องต้น ให้การรับว่าตนเองเป็นผู้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กบัญชีส่วนบุคคลของตนเอง และได้ดำเนินการร่วมกับบุคคลอื่นๆ ซึ่งมีหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจริง

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ฝากเตือนภัย สำหรับประชาชนที่สนใจลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะการเสนอขายโทเคนดิจิทัล ต้องตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอ รวมถึงลงทุนผ่านบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแล อย่างถูกต้องเท่านั้น เพื่อป้องกันมิให้ถูกหลอกลวงและเกิดความเสียหายจากผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ได้รับอนุญาต และกลุ่มมิจฉาชีพ โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และหากไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิดตามกฎหมาย สามารถแจ้งมาได้โดยตรงที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง Website : https://cib.go.th/ หรือ Facebook ตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดต่อไป

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน