เกษตรกรแห่ร้อง ผบก.ป.ช่วย หลังโดนบริษัท ไทยเฮิร์บ หลอกลงทุนปลูกพืชกระท่อม เสียหายกว่า 400 คน
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 26 ก.ค.67 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม.กลุ่มเกษตรกรลูกไร่บริษัท กระท่อมไทยเฮิร์บ ที่ได้รับความเดือดร้อน เพราะถูกบริษัทหลอกขายต้นพันธุ์กระท่อมราคาแพง แล้วหนีหายไป ไม่มารับซื้อใบกระท่อมตามสัญญา
เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.ให้ดำเนิน คดีกับผู้บริหารบริษัทดังกล่าว เกษตรกรจากหลายจังหวัดรวมตัวร้องกองบังคับการปราบปราม อ้างถูกบริษัทเอกชนชักชวนลงทุนปลูกกระท่อม แต่หลังครบสัญญากลับไม่มารับซื้อ เบื้องต้นพบผู้เสียหายทั่วประเทศ กว่า 400 คน รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท
ตัวแทนเกษตรกรจากหลายจังหวัด นำเอกสารสัญญา และหลักฐานการโอนเงิน เข้าร้องกองบังคับการปราบปราม หลังถูกบริษัทเอกชนชักชวนลงทุนปลูกต้นกระท่อม โดยทำสัญญาจะรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 200 บาท แต่หลังครบกำหนดตามสัญญากลับไม่รับซื้อ อ้างยังหาตลาดต่างประเทศไม่ได้ ส่งผลให้มีผู้เสียหายทั่วประเทศ รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท
ตัวแทนเกษตรกรรายหนึ่ง เปิดเผยว่า เมื่อปี 2565 ได้เห็นบริษัทดังกล่าวโฆษณาผ่านรายการทีวีช่องหนึ่งทางยูทูป ชักชวนเกษตรกรลงทุนปลูกพืชกระท่อม ในโครงการกระท่อม 1 ล้านต้น กับสโลแกนที่ว่า ปลูกก่อน รวยก่อน พร้อมรับซื้อคืน รายได้ไร่ละแสน ทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่เกิดความเชื่อมั่น และตัดสินใจรวมลงทุน
ที่ผ่านมาเกษตรกรผู้เสียหายในแต่ละจังหวัดได้ยื่นเรื่องต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกร ซึ่งผลการดำเนินการที่ผ่านมาทางสำนักปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ส่งหนังสือถึงผู้บริหารของบริษัทเข้ามาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทที่เกิดขึ้น แต่ทางบริษัทกลับไม่มาตามนัด ทางผู้เสียหายจึงร่วมตัวเข้าร้องต่อกองบังคับการปราบปราม เพื่อเร่งดำเนินคดีกับทางบริษัทดังกล่าว
เบืัองต้น ผู้เสียหายทราบมาว่าผู้บริหารบริษัทนี้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ตอนนี้พวกเรา เดือดร้อนมากบางคนใช้เงินเก็บทั้งชีวิตบางคนต้องไปกู้ธนาคารมาเป็นหนี้สินเพื่อที่จะนำเงินดังกล่าวมาเป็นทุนในการลงทุนปลูกพืชกระท่อมกับบริษัทแห่งนี้แต่พอถึงเวลาเมื่อผลผลิตออกบางรายก็รับซื้อคืนไปแค่หนึ่งครั้งแต่ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ซื้อคืนเลยสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องเกษตรกรเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประจำสำนักงาน ผบก.ป.รับหนังสือไว้เสนอผบก.ป.พิจารณาสั่งการต่อไป
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน