กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรหม, พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม, พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. ปรท.รอง ผบก., พ.ต.อ.จรุงศักดิ์ จำรูญ ผกก.4 บก.ทล., พ.ต.ท.ศิวกริช ดิษย์บุญรัตน์ รอง ผกก.4 บก.ทล., พ.ต.ท.บดินทร์ ชูเฉลิม รอง ผกก.ปรก.กก.4 บก.ทล., พ.ต.ท.มนตรี รักชาติ รอง ผกก.4 บก.ทล.

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.กฤษฎิ์ ศรีหาบุญทัน สว.ส.ทล.3 กก.4 บก.ทล. พร้อม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ส.ทล.3 กก.4 บก.ทล.

ร่วมกันจับกุม นายชูศักดิ์ฯ อายุ 46 ปี ในความผิดฐาน “ปลอมและใช้เอกสารทางราชการปลอม” พร้อมเปรียบเทียบปรับในข้อหา “ใช้รถไม่มีแผ่นป้ายทะเบียนหรือไม่ได้แสดงแผ่นป้ายทะเบียนให้ถูกต้อง”

พร้อมของกลาง แผ่นป้ายทะเบียน (ป้ายแดง) หมายเลข ก-5555 กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 แผ่น

สถานที่ตรวจยึด ริมถนน ทล.22 กม.42-43 ต.หนองเม็ก อ.หนองหาน จ.อุดรธานี

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยบริการฯ หนองหาน ออกตรวจเพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและป้องกันการแข่งรถในทางตลอดจนตรวจสอบรถยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมที่ใช้บนทางหลวง

จนต่อมาพบรถยนต์ต้องสงสัยใช้ป้ายทะเบียน (ป้ายแดงต้องสงสัยเป็นป้ายปลอม) ขับขี่รถยนต์ต้องสงสัยมุ่งหน้าไปยัง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึดจึงได้เปิดสัญญาณไฟวับวาบแสงสีแดง ส่งสัญญาณให้รถยนต์คันดังกล่าวหยุด เพื่อทำการตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบนายชูศักดิ์ฯ อายุ 46 ปี เป็น ผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอตรวจสอบป้ายทะเบียน (ป้ายแดง) ของรถยนต์คันดังกล่าว จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ป้ายทะเบียน ก-5555 กรุงเทพมหานคร (ป้ายแดง) ไม่มีลายน้ำมาตุลีเทพบุตรขับรถเทียมม้า, ตราประจำขนส่งทางบก, ไม่มีหมายเลขรหัส 9 หลัก, ปั้มสัญลักษณ์ ขส บริเวณตัวอักษรด้านหลังแผ่นป้ายทะเบียน และจาการตรวจสอบเลขตัวถังของรถในระบบกรมการขนส่ง พบรายละเอียดทะเบียนรถเป็นหมายเลขทะเบียนรถคันอื่น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกใบสั่งเปรียบเทียบปรับในข้อหา “ใช้รถไม่มีแผ่นป้ายทะเบียนหรือไม่ได้แสดงแผ่นป้ายทะเบียนให้ถูกต้อง” แล้วทำการตรวจยึดของกลางนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.หนองหาน ภ.จว.อุดรธานี เพื่อตรวจสอบแผ่นป้ายทะเบียนดังกล่าวกับกรมการขนส่งทางบก และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น นายชูศักดิ์ฯ รับว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นรถของภรรยา ซึ่งซื้อมาจากศูนย์รถยนต์ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ธันวาคม 2565 โดยป้ายทะเบียนป้ายแดงดังกล่าวทางศูนย์รถยนต์เป็นผู้ดำเนินการติดป้ายทะเบียนให้เอง ตนไม่ทราบว่าเป็นแผ่นป้ายทะเบียนที่กรมการขนส่งทางบกได้อนุญาตให้ใช้ได้หรือไม่ และนายชูศักดิ์ฯ แจ้งว่าป้ายทะเบียนป้ายจริงได้รับมาตั้งแต่เดือน มกราคม 2567 ซึ่งเก็บไว้ที่บ้านมิได้พกพาประจำไว้ในรถ

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล รายงาน