พลทหารอากาศแอบหลบหนีจากกองร้อย ร้องเอาผิดจ่าเอก หลังทำร้ายร่างกาย อ้างว่าตนเสพยาเสพติด ลั่น พลทหาร หรือคนมียศ ก็คนเท่าเหมือนกัน

พลทหารอากาศแอบหลบหนีจากกองร้อย ร้องเอาผิดจ่าเอก หลังทำร้ายร่างกาย อ้างว่าตนเสพยาเสพติด ลั่น พลทหาร หรือคนมียศ ก็คนเท่าเหมือนกัน

วันนี้ 24 ก.ค. 67 นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี พลทหารอากาศ เข้าขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด เนื่องจากถูกจ่าเอกทำร้ายร่างกาย ผู้เสียหายเล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยกองร้อยของตนมีการตรวจสารเสพติดพลทหารทุกนาย ซึ่งมีจ่าเอกคนหนึ่งนำที่ตรวจสารเสพติดมาให้ตนตรวจ ปรากฏว่าขึ้นเป็นรอยจาง จ่าเอกคนเดิมจึงให้ตนตรวจอีกครั้งก็ยังขึ้นรอยจางอีก จ่าเอก จึงถามตนว่าตนเสพกัญชามาหรือไม่ ซึ่งตนก็ได้ตอบปฏิเสธพร้อมกับสาบานว่าถ้าตนเสพสารเสพติดจริงก็ให้กระทืบตนได้เลย พร้อมกับขออนุญาตออกไปตรวจสารเสพติดที่โรงพยาบาลข้างนอก ทำให้จ่าเอกคนดังกล่าวไม่พอใจ จึงสั่งให้ตนหมอบและกระทืบมาที่กลางหลังตน 2 ครั้ง และลาบตนไปที่หลังกองร้อยพร้อมกับกระทืบมาที่ชายโครงอีก 5-6 ครั้ง แล้วเตะที่หน้าอีก 1 ครั้ง จนทำให้ตนต้องรีบวิ่งหนีไปฟ้องผู้บังคับการกองร้อย ทรงผู้บังคับการกองร้อยก็ได้อนุญาตให้ตนไปทำการตรวจหาสารเสพติดที่โรงพยาบาล ซึ่งผลออกมาเป็นลบ แต่จ่าเอกคนดังกล่าวก็ไม่มีการมาขอโทษตนแต่อย่างใด พร้อมกับท้าทายให้ตนมาร้องเรียนที่เพจสายไหมต้องรอด

สำหรับที่ตรวจสารเสพติด ตนได้ข้อมูลมาว่าหมดอายุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 เดือน จึงทำให้ผลตรวจออกมาคลาดเคลื่อนได้

วันรุ่งขึ้น ตนรู้สึกปวดระบมไปทั้งตัว จึงได้ขออนุญาตไปทำการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง แต่ยังไม่ทันที่จะได้ตรวจร่างกาย ก็มีอีกจากคนนึงเดินเข้ามาบอกตนว่า ให้แจ้งแพทย์ไปว่าเกิดอุบัติเหตุรถล้ม พร้อมกับบอกว่าให้กลับไปคุยกันที่กองร้อย และตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลในกองร้อย ซึ่งตนก็เชื่อจึงยอมกลับไป แต่ปรากฏว่าพอกลับไปถึงก็ไม่มีการพาไปตรวจร่างกายแต่อย่างใด อีกทั้งตนยังถูกคนคอยสะกดรอยตามทุกฝีก้าว

สำหรับการออกมาร้องเรียนในวันนี้ ตนต้องแอบหนีออกมาจากกองร้อยเมื่อคืนที่ผ่านมา เพราะรู้สึกว่าถ้าหากไม่ออกมาร้องเรียน ตนจะเป็นอันตรายไปมากกว่านี้ เพราะตนยังเหลือเวลาอีก 4 เดือน ถึงจะปลดประจำการ

พร้อมกับฝากบอกไปยังพลทหารเกณฑ์ทั่วประเทศด้วยว่า ถ้าหากเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็อย่าไปยอมถูกกดขี่ เพราะคนเรามีมือ มีเท้า มีปาก เหมือนๆกัน นอกจากนี้ยังฝากไปถึงครูฝึกที่ชอบทำร้ายร่างกายพลทหารด้วยว่า ถ้าหากเป็นลูกหลานตัวเองโดนทำร้าย จะรู้สึกอย่างไร

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ เปิดเผยว่า หลังจากนี้ตนจะพาผู้เสียหายไปแจ้งความที่สน.ดอนเมือง พร้อมก็พาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล แล้วจะประสานไปยังผู้บังคับบัญชาทหารอากาศให้ลงมาตรวจสอบ เพราะไม่ว่าจะเป็นพลทหาร หรือมียศ ก็ถือเป็นคนเท่ากันมีเกียรติและมีศักดิ์ศรีเท่ากัน ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาทำร้ายร่างกายบุคคลอื่น

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ