กยศ.เตรียมคืนเงินผู้กู้ยืมเพื่อการศึกษาชำระเกินกว่า  1.7 แสนราย หลังคำนวณยอดหนี้ใหม่ คาดเปิดลงทะเบียน 1 ต.ค.นี้

กยศ.เตรียมคืนเงินผู้กู้ยืมเพื่อการศึกษาชำระเกินกว่า 1.7 แสนราย หลังคำนวณยอดหนี้ใหม่ คาดเปิดลงทะเบียน 1 ต.ค.นี้

จากกรณี นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา และนายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ร่วมแถลงข่าวเรื่องความคืบหน้าในการคำนวณยอดหนี้ใหม่ โดยกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้มีการคำนวณยอดหนี้ให้แก่ผู้กู้ยืมจำนวนกว่า 3.65 ล้านบัญชีเสร็จแล้ว มีผู้กู้ยืมได้รับประโยชน์หลังจากคำนวณยอดหนี้ใหม่จำนวนกว่า 2.98 ล้านราย ภาระหนี้ลดลง 56,326 ล้านบาท โดยผู้กู้ยืมส่วนใหญ่มียอดหนี้ลดลง บางรายสามารถปิดบัญชีได้ และบางรายได้รับเงินคืน โดยผู้กู้ยืมสามารถตรวจสอบยอดหนี้ที่คำนวณใหม่ได้ที่หน้าเว็บไซต์ กยศ. ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาได้เปิดเผยว่า ขณะนี้กองทุนฯได้ดำเนินการคำนวณยอดหนี้ใหม่ (Recalculation) ให้แก่ผู้กู้ยืมกว่า 3.65 ล้านบัญชีแล้ว พบว่ามี ผู้กู้ยืมได้รับประโยชน์จากการคำนวณยอดหนี้ใหม่จำนวนกว่า 2.98 ล้านราย ยอดหนี้ลดลง 56,326 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ ประกอบด้วย

ผู้กู้ยืมมียอดหนี้ที่ต้องชำระลดลง จำนวน 2.8 ล้านราย

ผู้กู้ยืมที่มียอดชำระหนี้ครบถ้วนและสามารถปิดบัญชีได้ จำนวน 177,936 ราย

มีผู้จะได้รับเงินคืน จำนวน 177,917 ราย เป็นเงิน 2,104 ล้านบาท

สามารถหยุดหักเงินเดือนผ่านองค์กรนายจ้าง จำนวน 18,326 ราย

สำหรับในขั้นตอนกระบวนการคืนเงิน เป็นจำนวนเงิน 2,104 ล้านบาท สำหรับ 1.77 แสนคน ในกระบวนการคืนคาดว่าจะดำเนินการได้ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2568 หรือวันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนสำหรับผู้ที่ต้องการขอเงินคืนและจะมีการแจ้งนัดหมาย โดยขั้นตอนในการโอนเงินคืนต้องผ่านระบบพร้อมเพย์ที่ผูกบัญชีธนาคารด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้กู้ยืมเท่านั้น

โดยปัจจุบันยังมีลูกหนี้ กยศ.ที่ผิดนัดชำระหนี้ 2.1 ล้านราย มูลหนี้ 9.6 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 39% ของพอร์ต โดยเฉลี่ยลูกหนี้ 1 คน มูลหนี้ 1.2 แสนบาท โดยยอมรับว่า ขณะนี้อัตราการผ่อนชำระหนี้ลดลง 8% ซึ่งมองว่าเป็นผลกระทบชั่วคราว หากมีการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้ทุกคนแล้ว เชื่อว่าลูกหนี้จะกลับมาชำระหนี้ได้ปกติ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ