ชุมชนบำบัดอย่างยั่งยืน ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลคืนคนดีสู่สังคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บ้านคชสาร ม.3 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี นายสุทธิพร ศิวเวทพิกุล นายอำเภอหนองเสือ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธีรยุทธ เสรีนนท์ชัย ผกก.สภ.หนองเสือ นายไพศาล ศรีธเนศสกุล นายก อบต.บึงกาสาม นายวิโรจน์ ตั้งเจริญดี ผอ.รพ.หนองเสือ พ.ต.ท.ดำเนินสฤษดิ์ คำแสน รองผู้กำกับป้องกันปราบปราม สภ.หนองเสือ และ ผู้นำท้องถิ่นร่วมเปิดโครงการชุมชนบำบัดอย่างยั่งยืนในพื้นที่แพร่ระบาดยาเสพติดตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยมีผู้บำบัดยาเสพติดทั้ง 21 รายเข้าร่วมโครงการ
นายสุทธิพร ศิวเวทพิกุล นายอำเภอหนองเสือ กล่าวว่าตามที่รัฐบาลได้กำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระสำคัญของชาติ ส่งผลกระทบต่อความเดือดร้อนความทุกข์ยากของประชาชนและศักยภาพการพัฒนาของประเทศในอนาคต เป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแต่ละหมู่บ้านชุมชนที่ยังมีผู้ติดยาเสพติดอาศัยอยู่จะมีปัญหา มากกว่าทุกระดับจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนต้อง ช่วยเหลือผู้ติดยาเสพติดให้ได้รับการบำบัดรักษาจนสามารถกลับมาใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านชุมชนได้อย่างปกติสุขในระยะยาวสำเร็จลุล่วงสมดังวัตถุประสงค์ของโครงการ
โดยโครงการชุมชนบำบัดอย่างยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด ดำเนินการระยะเวลา 3 เดือน โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2567 และสิ้นสุดโครงการในวันที่ 10 กันยายน 2567 ปัจจุบันนี้ได้ดำเนินการถึงขั้นตอนปฏิบัติการค้นหาผู้เสพที่มีอายุระหว่าง 12 - 65 ปี ยอดจำนวน 800 ราย จำนวนครัวเรือน 353 ครัวเรือน ในพื้นที่บ้านคซสาร หมู่ 3 ต.บึงกาสาม จำนวน ระหว่างวันที่ 24 มิถุนายน - 23 กรกฎาคม 2567
พบผู้เสพยาเสพติดและสมัครใจเข้าบำบัดกับโครงการจำนวน 21 ราย เป็นผู้เสพที่อยู่ในพื้นที่บ้านคชสารทั้งหมด ซึ่งวันนี้ได้นำผู้เสพยาเสพติดในโครงการมารายงานตัว พบประพูดคุยและทำความเข้าใจเพื่อบำบัดรักษาทางการแพทย์ CBTX โดย อาศัยการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วนในชุมซนและนัดหมายทำกิจกรรมบำบัดในทุกสัปดาห์ ๆ ละ 1 ครั้งเพื่อให้บุคคลเหล่านี้คืนสู่สังคมและเป็นประโยชน์ต่อชุมชนและสังคมต่อไป
ทางด้านนายไพศาล ศรีธเนศสกุล นายก อบต.บึงกาสาม กล่าวว่าอยากจะทำงานอะไรตนจะส่งเสริมอาชีพให้้โดยมีงบประมาณจากกองไฟฟ้าและ อบต.บึงกาสาม ในรัศมี 5 กิโลเมตร เช่นอยากเป็นช่างซ่อมรถทางกองทุนก็จะส่งเสริมเครื่องมือให้นำไประกอบอาชีพ โดยหากกลุ่มเหล่านี้มีอาชีพเลี้ยงครอบครัวได้ก็จะไม่หวนกลับไปเหมือนเดิมเพื่อคืนคนดีสู่สังคมต่อไป
ผู้สื่อข่าวจังหวัดปทุมธานี ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน