บุกทลายแหล่งผลิตน้ำท่อม 4 คูณ 100 รายใหญ่
(16 ก.ค.67) ภายใต้การอำนวยการของ ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี สั่งการให้ นายสมบูรณ์ แผนสมบูรณ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี มอบหมายให้ ว่าที่ร้อยตรีธนายุทธ พินิจมนตรี ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นำกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอเมืองกาญจนบุรีที่ 2 พร้อม จนท.ทหารชุด ชป.ขว.กกล.สุรสีห์ และนายทศม เรืองพยุงศักดิ์ กำนันตำบลปากแพรก ฝ่ายปกครอง ตรวจสอบห้องเช่าแห่งหนึ่งซอยเขาตองพัฒนา หมู่ 9 เทศบาลตำบลปากแพรก อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี หลังพบเบาะแสว่ามีการมั่วสุมและลักลอบต้มน้ำกระท่อมขายโดยผิดกฎหมาย
ชุดจับกุมได้เข้าตรวจสอบห้องเช่าดังกล่าวพบว่ามีชายหนุ่มหญิงสาวจำนวนหนึ่งพักอาศัยอยู่จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น พบว่ามีการลักลอบต้มน้ำกระท่อมจริง มีเครื่องมือครบ หม้อต้มหลายขนาดมีน้ำกระท่อมอยู่ทุกถัง เครื่องปั่น เครื่องตวงวัดปริมาณ ขวดพลาสติกเปล่ารอบรรจุ อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. จำนวน 3 กระบอก เครื่องกระสุนขนาด 9 มม. จำนวนหนึ่ง ตรวจพบเอกสารปืนเพียงกระบอกเดียว ขวดยาแก้ไอที่เปิดแล้วใส่ถุงปุ๋ยคร่าวๆ ประมาณ 400 ขวด ที่ยังไม่ได้เปิดอีกจำนวนหนึ่ง พบขวดพลาสติดใสที่บรรจุขวดแล้ว แบ่งฝาขวดเป็นสองสี ถ้าฝาขวดสีเขียวอ่อนจะเป็นสูตรดั้งเดิม ส่วนฝาขวดสีน้ำเงินจะเป็นสูตรพิเศษผสมยาแก้ไอ รวมเป็นจำนวนกว่า 200 ขวด โดยมี นายจี (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี เป็นชาวตำบลคลองทรายขาด อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง รับเป็นเจ้าของสิ่งของทั้งหมดนี้ จึงนำตัวพร้อมของกลางมาที่ว่าการอำเภอเมืองกาญจบุรี
ระหว่างนั้น นายสมบูรณ์ แผนสมบูรณ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ได้มาตรวจสอบกรณีชุดจับกุมนำของกลางมาตรวจยึดบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ตรวจดูอาวุธปืนที่ยึดมาได้ ตัวปั้มตรายางเป็นโปรโมชั่น ปั้มสะสมจำนวนขวดที่ซื้อไว้เป็นส่วนลดซื้อครั้งต่อไป
นายสมบูรณ์ แผนสมบูรณ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี กล่าวว่า เนื่องมาจากพฤติกรรมการขายน้ำกระท่อม โดยไม่ได้รับอนุญาติจากองค์การอาหารและยา ซึ่งเป็นกฎหมายของสาธารณสุข ก็มีความผิดแล้วเนื่องจากการจับกุมครั้งนี้ได้มีการนำยาแก้ไอต่างๆมาเป็นส่วยผสมหลายชนิด ซึ่งจากน้ำกระท่อมมาผสมยาแก้ไอ อย่างที่เขาเรียกกันสี่คูณร้อยจะเข้าลักษณะของยาเสพติดชนิดหนึ่ง ก็เป็นการผิดกฎหมายอีกฉบับหนึ่ง ซึ่งทางอำเภอก็ได้ดำเนินการจับกุม และดำเนินคดีและนำส่งพนักงานสอบสวนต่อไป ก็ฝากพี่น้องประชาชนถ้าพบพฤติกรรมการลักลอบจำหน่ายน้ำกระท่อมซึ่งผิดกฎหมาย ก็ขอให้แจ้งได้ที่อำเภอหรือสถานีตำรวจ
ส่วนทางด้าน นายจี (นามสมมุติ) กล่าวว่า ตนเองขายมาได้ประมาณ 2 ปีกว่าๆ ก็ซื้อใบจากจังหวัดปทุมธานี นำมาต้มเอง แล้วก็จำหน่าย ขวดสีน้ำเงิน ฝาสีน้ำเงิน 100 บาทต่อขวด ส่วนฝาสี เขียว และจำหน่ายขวดละ 50 บาท มีรายได้ต่อเดือนประมาณ 20,000 กว่าบาท สำหรับสูตรเป็นสูตรดั้งเดิม ซื้อมามีการปรุงแต่งด้วยหลากหลายบ้าง โดยต่อไปนี้จะเลิกขายน้ำกระท่อมอีกแล้ว
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา ตามมาตรา 50 ตามประการของกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 454 ออกตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 สารสกัดพืชกระท่อมเป็นหนึ่งในบัญชีแนบท้ายรายการที่ 52 ซึ่งยังคงถูกจำกัด ห้ามผลิต นำเข้า และจำหน่าย ดังนั้น การปลูก ซื้อ-ขาย ต้นกระท่อม ใบสด ลำต้น เมล็ด ตลอดจนการต้มน้ำกระท่อมที่ไม่มียาผสมยาแก้ไอเพื่อดื่มเองหรือแจกจ่าย โดยเป็นการบริโภคตามวิถีชีวิตไม่ใช่การจำหน่าย สามารถทำได้โดยไม่ผิดกฎหมาย แต่ถ้าการต้มน้ำกระท่อมหรือผสมในอาหารเพื่อจำหน่าย รวมถึงการแจกจ่ายเพื่อประโยชน์ทางการค้าขาย บริการค้าขายเป็นการกระทำความผิดกฎหมาย โดยมีโทษตามมาตรา 50 จำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 2 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000 ถึง 20,000 บาท และข้อกล่าวหาการมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีสิ่งเทียมอาวุธปืนไว้ในครอบครองผิดกฏหมาย นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี
ทีมข่าวสยามนิวส์ จังหวัดกาญจนบุรี รายงาน