เศร้าสลด! ลุงขับเก๋งหลับใน เสียหลักพุ่งชน ยายขี่จยย.พาหลานไปซื้อกับข้าวเสียชีวิต
เมื่อเวลา 07.50 น. วันที่ 14 ก.ค. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีอุบัติเหตุรถเก๋งชนกับรถจยย. มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่ ตรงข้ามตลาดเฮียเกียง หมู่ที่ 5 ต.บางหลวง อ.เมือง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้ง จึงรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และประสานแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม
ที่เกิดเหตุริมถนน ขาเข้ามุ่งหน้าสะพานปทุมธานี 1 ซึ่งเป็นจุดที่มีคนชอบนำเศษขยะเศษปูนมาทิ้ง โดยพบประชาชนพลเมืองดีกำลังคอยปลอบหนูน้อยเป็นเด็กผู้หญิงวัย 4-5 ขวบนอนร้องไห้อยู่ โดยมีเลือดไหลออกที่หู เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิฯ จึงรีบนำตัวหนูน้อยส่ง รพ.ปทุมธานี
ใกล้กันพบร่างของผู้หญิงนอนเสียชีวิตอยู่บนกองเศษขยะ ห่างไปประมาณ 10 เมตร มีรถจยย.ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 2กข-1849 อุดรธานี สภาพรถพังยับเยิน ตกอยู่ในแอ่งน้ำ นอกจากนี้ ยังมีรถเก๋งโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน 3ษ-4456 กรุงเทพมหานคร พุ่งตกไปในพงหญ้า สภาพรถกระจกหน้าแตกและด้านหน้ามีร่องรอยเฉี่ยวชนได้รับความเสียหาย โดยมีนายสมจิตร เต็งสุวรรณ์ อายุ 53 ปี ชาว จ.พิจิตร เป็นคนขับได้รับบาดเจ็บที่แขนเป็นแผลฉีกขาด เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ จึงได้นำตัวส่ง รพ.กรุงสยามเซนต์คาร์ลอส
จากการสอบถามพยานและตรวจสอบจากกล้องหน้ารถของรถโม่ปูนที่ขับตามมาและบันทึกภาพไว้ได้ พบว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตขี่รถจยย. ซึ่งมีเด็กผู้หญิงนั่งมาด้วย ขับอยู่ในช่องทางเลนซ้ายสุด จู่ ๆ รถเก๋งคันดังกล่าว ซึ่งขับอยู่ในช่องเลนกลางได้เสียหลักพุ่งเข้าชนรถจยย.อย่างจัง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ โดยคนขับรถปูนได้ลงจากรถและไปอุ้มหนูน้อยมาอยู่ริมทาง จากนั้นก็มีประชาชนมาช่วยกันและโทรแจ้งตำรวจ
เบื้องต้นสันนิษฐานว่า คนขับรถเก๋งน่าจะเกิดจากการหลับใน ทำให้รถเสียหลักแฉลบพุ่งเข้าชนรถจยย. ซึ่งจะได้ทำการสอบสวนและดำเนินคดีกับคนขับรถเก๋งต่อไป ผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นางสุพิรารัต หีบกล้า อายุ 50 ปี ชาว ต.บางหลวง อ.เมือง จ.ปทุมธานี และบัตรศูนย์เด็กเล็ก ระบุชื่อ ด.ญ.รัตนธิดา โพธิ์งาม เจ้าหน้าที่ได้มอบศพให้มูลนิธิฯ นำส่ง สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ถนนซ่อมสร้าง อ.เมือง จ.ปทุมธานี เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง
ต่อมา ได้มีญาติของผู้เสียชีวิต เข้ามายืนยันข้อมูลข้างต้น ทราบว่า ผู้เสียชีวิตกับหลานมักจะขับรถออกไปซื้อกับข้าวทุกเช้า โดยตอนเกิดเหตุไม่มีใครรู้ มาทราบอีกทีหลังจากที่ชาวบ้านเห็นว่า มีรถกู้ภัยและรถตำรวจมาจอดคล้ายมีเหตุจึงพากันมาดูถึงรู้ว่าป้าเพ็ญและหลานเกิดอุบัติเหตุ