เพิ่งจะรู้! ทำไมฝาถังน้ำมันรถญี่ปุ่น ถึงต้องอยู่ทางด้านซ้ายมือเสมอ
ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่รู้ก็ได้ ไม่รู้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ารู้ก็ถือว่าประดับความรู้รอบตัวกันไป คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมฝาถังน้ำมันของรถญี่ปุ่น มักจะอยู่ทางซ้ายมือของตัวรถ ขณะที่รถยุโรปกลับติดตั้งฝาถังน้ำมันไว้ทางขวามือ หากใครอยากรู้เราได้หาคำตอบมาไว้แล้ว
โดยปกติแล้ววิศวกรผู้ผลิตรถยนต์จะติดตั้งฝาถังน้ำมันไว้ฝั่งตรงกันข้ามกับผู้ขับขี่ หากเป็นรถยนต์พวงมาลัยขวา ฝาถังน้ำมันก็จะถูกออกแบบให้อยู่ทางซ้ายของตัวรถ ในทางตรงกันข้าม หากเป็นรถพวงมาลัยซ้าย ฝาถังน้ำมันก็จะถูกออกแบบให้อยู่ทางขวาของตัวรถเช่นกัน
เหตุผลหลักๆ ที่เป็นเช่นนั้น นั่นก็คือ ความปลอดภัย เพราะหากรถเกิดน้ำมันหมดระหว่างทาง จำเป็นต้องนำรถเข้าข้างทางแล้วล่ะก็ การเติมน้ำมันในฝั่งชิดขอบถนนจะทำได้สะดวกและปลอดภัยมากกว่าอีกฝั่งนั่นเอง
หรือจะเป็นในกรณีที่เติมน้ำมันในปั๊มน้ำมัน หากจู่ ๆ เกิดเพลิงลุกไหม้หัวจ่าย ขณะกำลังเติมน้ำมันอยู่แล้วล่ะก็ ผู้ขับขี่ก็จะอยู่ในตำแหน่งที่ห่างจากเปลวไฟมากกว่า พร้อมกับสามารถหนีออกจากตัวรถได้อย่างสะดวก ช่วยลดโอกาสได้รับบาดเจ็บจากเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้ได้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปกติแล้วฝาถังน้ำมันจะต้องอยู่ในตำแหน่งตรงกันข้ามกับ ท่อไอเสีย เพื่อลดโอกาสที่น้ำมันเชื้อเพลิงจะสัมผัสกับท่อไอเสียที่มีความร้อนสูงจนเกิดเป็นไฟลุกไหม้ได้ ขณะที่รถยุโรปแทบทั้งหมดมีต้นกำเนิดจากประเทศที่ใช้พวงมาลัยซ้าย เมื่อทางผู้ผลิตไม่ได้มีการออกแบบย้ายตำแหน่งของท่อไอเสีย จึงไม่มีการย้ายฝาถังน้ำมันไปอยู่ตรงกันข้ามกับผู้ขับขี่ จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมรถยุโรปส่วนใหญ่ถึงติดตั้งฝาถังน้ำมันไว้ทางขวามือนั่นเอง
ทั้งนี้ การที่รถแต่ละคันติดตั้งฝาถังน้ำมันไว้บริเวณตำแหน่งที่แตกต่างกัน ก็จะช่วยเฉลี่ยปริมาณรถในการเติมน้ำมันแต่ละหัวจ่ายได้ หากเป็นรถญี่ปุ่นก็จะเลือกเข้าช่องหัวจ่ายที่อยู่ทางด้านซ้ายมือของรถ ส่วนรถยุโรปก็จะเลือกช่องที่อยู่ทางฝั่งขวามือ จะได้ไม่ต้องเสียเวลารอคิวนาน ๆ นั่นเอง
ท้ายที่สุด แม้ว่าเหตุผลที่กล่าวมาจะเป็นเรื่องของความปลอดภัยล้วน ๆ แต่ในความเป็นจริงไม่ว่าฝาถังน้ำมันจะอยู่ฝั่งใดก็ปลอดภัยไม่แตกต่างกัน หากเพียงแต่ปฏิบัติตามข้อแนะนำระหว่างการเติมน้ำมันอย่างเคร่งครัด เช่น ดับเครื่องยนต์ขณะเติมน้ำมัน, งดใช้โทรศัพท์มือถือขณะเติมน้ำมัน ฯลฯ เพียงเท่านี้เหตุการณ์ร้ายๆ ก็จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน