รวบขบวนรถลักลอบขนคนต่างด้าว 3 คัน พบต่างด้าวเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต 39 ราย
เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2567 กองบังคับการตำรวจทางหลวง(บก.ทล.)เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ร่วมกันจับกุมดังนี้
1.นายรุ่งวิกรัยฯ อายุ 38 ปี (ผู้ขับขี่) สัญชาติ ไทย
2.นายสุชาติฯ อายุ 38 ปี (ผู้ขับขี่) สัญชาติ ไทย
3.นายปัญญาฯอายุ 21 ปี (ผู้ขับขี่) สัญชาติ ไทย
ผู้ถูกจับที่ 4 - 42 บุคคลต่างด้าว สัญชาติ เมียนมา
โดยกล่าวหาว่า ผู้ถูกจับที่ 1,2,3 ซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือหรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ผู้ถูกจับที่ 4 - 42 เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต สามารถจับกุมได้ที่บริเวณ ทล.11 กม.72-73 ต.โคกเดื่อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์
สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล. ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและ ผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่กองกำกับการ 1 อยู่บ่อยครั้ง บก.ทล. จึงสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง บูรณาการร่วมกันสืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ
ต่อมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทาง ทล.1 กม.314-324 พบรถยนต์ จำนวน 3 คัน ขับขี่มาด้วยความเร็วสูง และมีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์ปกติ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับขี่ติดตามอย่างกระชั้นชิด จนกระทั่งมาถึง บริเวณ ทล.1 กม.314 (ขาเข้า) ต.พยุหะ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจสอบพบ 1.นายรุ่งฯ, 2.นายสุชาติฯ และ 3.นายปัญญาฯ แสดงตนเป็นผู้ขับขี่รถยนต์ทั้ง 3 คัน โดยมีบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมายนั่งมาในรถทั้ง 3 คัน รวม 39 คน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญผู้ถูกจับกุมพร้อมรถยนต์ทั้ง 3 คันดังกล่าว มาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สถานีตำรวจภูธรพยุหะคีรี ภ.จว.นครสวรรค์ พบว่า ผู้ถูกจับที่ 4 - 42 เป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง
จากการสอบถามผู้ถูกจับที่ 1 - 3 ให้การยอมรับว่า ได้รับการประสานจากชายไทย (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ให้ไปรับแรงงานต่างด้าวที่บริเวณพื้นที่ อ.บ้านตาก จ.ตาก เพื่อไปส่งปลายทางที่หมายยังไม่ชัดเจน โดยได้ค่าจ้าง 1,000 บาทต่อคน และรับว่าได้ขับขี่รถยนต์บรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง มาจริง และตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวดังกล่าวไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆ และยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง
จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ เงินค่าจ้างที่ได้มาจะนำไปเที่ยวและใช้จ่ายต่างๆและ สอบถามบุคคลต่างด้าวที่ถูกจับ ผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมาให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย
โดยเสียค่าใช้จ่าย จำนวน 10,000 - 25,000 บาท จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรพยุหะคีรี ภ.จว.นครสวรรค์ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตาม จาการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาจำนวน 42 คน ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน