หนุ่มไรเดอร์ถูกตำรวจซ้อมยับ ค้นตัว ค้นรถ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ปล่อยตัวกลับ พอแจ้งความ ตำรวจคู่กรณีทราบตามล็อคตัวไปดำเนินคดีข้อหาไม่สวมหมวกกันน็อค พร้อมข่มขู่ห้ามแจ้งความ

หนุ่มไรเดอร์ถูกตำรวจซ้อมยับ ค้นตัว ค้นรถ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ปล่อยตัวกลับ พอแจ้งความ ตำรวจคู่กรณีทราบตามล็อคตัวไปดำเนินคดีข้อหาไม่สวมหมวกกันน็อค พร้อมข่มขู่ห้ามแจ้งความ

วันนี้ (9 ก.ค. 2567) ที่เพจสายไหม ต้องรอด! นายบี อาชีพไรเดอร์ มาขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอดและที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หลังถูกตำรวจสายตรวจ 2 นายรุมกระทืบจนบาดเจ็บ

นายบี กล่าวว่า วันเกิดเหตุคือช่วงตี 2 ของวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา วันนั้นขี่มอเตอร์ไซค์ย้อนศร มาถึงบริเวณช่วงวัดสุทธาโภช ย่านฉลองกรุง เพื่อจะไปเก็บโทรศัพท์มือถือที่ทำหล่นไว้ ระหว่างนั้นเห็นตำรวจสายตรวจของ สน.ฉลองกรุง ขี่มอเตอร์ไซค์พุ่งมาหาด้วยความเร็ว ด้วยความตกใจจึงขี่มอเตอร์ไซค์หนี เพราะกลัวถูกจับเนื่องจากตนเองไม่ได้พกใบขับขี่ ไม่ได้สวมหมวกกันน็อก และขี่มอเตอร์ไซค์ย้อนศร

ระหว่างที่ตนเองขี่มอเตอร์ไซค์หนี ตำรวจก็ขี่ไล่ตามและพยายามจะใช้ไม้กระบองฟาด เพื่อให้มอเตอร์ไซค์ของตนเองล้ม จนมาถึงย่านลาดกระบังก็ชะลอความเร็วเพราะรู้ตัวว่าหนีไม่พ้น และเมื่อตำรวจมาถึงก็กระชากตนเองลงมาที่พื้นถนน และตำรวจทั้ง 2 นายก็รุมกระทืบทันที โดยเตะที่หน้า เตะตามลำตัว และเหยียบหน้าอก

ตนเองได้ถามตำรวจว่าทำไมถึงกระทืบ ทั้งที่เขาไม่ได้เป็นคนร้ายหรือเป็นนักโทษหนีคดี ตำรวจก็ตอบว่าเพราะเขาขี่มอเตอร์ไซค์หลบหนี จากนั้นตนเองจึงไปแจ้งความที่ สน.จระเข้น้อย โดยตำรวจที่กระทืบก็ตามไปด้วย เพื่อจะขอไกล่เกลี่ยไม่ให้แจ้งความ

ไรเดอร์ได้เรียกเงินเยียวยาไป 5,000 บาท เพราะจะเอาไปรักษาตัวและซ่อมมอเตอร์ไซค์ แต่ตำรวจบอกว่าให้ได้แค่ 1,000 บาท ตนเองจึงไม่ยอมรับเงินและแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจที่ทำร้ายร่างกาย ส่วนไรเดอร์ก็ถูกตำรวจดำเนินคดี ในข้อหาไม่สวมหมวกกันน็อก ขี่มอเตอร์ไซค์ย้อนศร และพกใบขับขี่

เรื่องที่เกิดขึ้น ไรเดอร์ยอมรับว่าผิดที่ขี่มอเตอร์ไซค์หนีตำรวจเพราะกลัวถูกจับ แต่ตำรวจก็ไม่น่าจะต้องทำร้ายถึงขนาดนี้ มองว่ามันเกินกว่าเหตุ จึงมาขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ