เตือนเครื่องดื่ม 2 อย่าง ห้ามดื่มหลังเพิ่งตื่นนอน ถ้าไม่อยากให้ ไต ถูกทำลาย
ต้องบอกว่าเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ที่ทางเราได้นำสาระดี ๆ มาฝากทุกคนกันอีกเช่นเคย เมื่อเว็บไซต์ต่างประเทศ soha ได้มีการเปิดเผยเรื่องราวที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพไต ด้วยการบอกกล่าวถึง 2 เครื่องดื่มที่ต้องขึ้น บัญชีดำ ห้ามดื่มโดยเด็ดขาด ตอนเวลาเพิ่งตื่นนอน หากไม่อยากให้ไตถูกทำลาย
ซึ่งจากการศึกษาหลายชิ้นพบว่า หลังตื่นนอนร่างกายจะขาดน้ำปริมาณมาก ดังนั้น การดื่มน้ำในตอนเช้า จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยให้ร่างกายเริ่มกลับสู่สภาวะปกติ แต่มันก็ไม่ใช่น้ำทุกประเภทหรอกใช่มั้ย ที่ดีต่อสุขภาพในตอนเช้าตรู่ โดยมีเครื่องดื่ม 2 ชนิด ที่ขอเตือนให้เลิกดื่มตอนเพิ่งตื่นนอนโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำไตพังได้ ได้แก่
1. น้ำชาเข้มข้น
น้ำชาเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยเฉพาะชาเขียว แต่หากบริโภคไม่ถูกต้อง ก็อาจส่งผลเสียที่คาดเดาไม่ได้เช่นกัน
ชาเข้มข้นประกอบด้วยฟลูออไรด์จำนวนมาก หากดื่มเป็นประจำอาจเป็นอันตรายต่อไตได้ เนื่องจากไตเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่ขับฟลูออไรด์ออกจากร่างกาย หากร่างกายรับฟลูออไรด์มากเกินไป และกักเก็บมากเกินไป อาจทำให้เยื่อหุ้มไตและไขกระดูกเสียหายได้ ดังนั้นหลังเพิ่งตื่นนอน จึงไม่ควรดื่มน้ำชาเข้มข้นโดยเด็ดขาด
นอกจากนี้ นิสัยการดื่มชาหลังดื่มแอลกอฮอล์ ยังเป็นอันตรายต่อไตอีกด้วย เหตุผลก็คือเนื่องจากชาเข้มข้นมีสารธีโอฟิลลีนจำนวนมาก ซึ่งมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ เมื่อชาและแอลกอฮอล์เข้าสู่ไตพร้อม ๆ กัน จะทำให้ไตรับภาระเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ไตเสียหายได้
2. น้ำอัดลม
ในตอนเช้าที่ท้องว่าง หากดื่มน้ำอัดลมเข้าไป จะทำให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร กรดคาร์บอนิกและฟอสฟอรัสที่มีอยู่ในโซดา จะช่วยเร่งการขับแคลเซียมออกจากร่างกาย นอกจากนี้ การดื่มน้ำอัดลมมากเกินไป จะทำให้เกิดโรคอ้วน เพิ่มระดับกรดยูริกในเลือด ทำให้เกิดโรคเกาต์ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ จะทำให้ฟันสึกกร่อน มีปัญหาเกี่ยวกับไต และโรคร้ายแรงอื่น ๆ อีกมากมาย
การศึกษาหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า การดื่มน้ำอัดลมจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ไตวายได้เร็วมาก ดังนั้น ไม่ควรดื่มน้ำอัดลมหลังจากตื่นนอน
เมื่อหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่เป็นอันตรายต่อไตแล้ว เรามาดู 3 วิธีที่ช่วยบำรุงรักษาให้ไตแข็งแรงกันดีกว่า ประกอบไปด้วย
1. เข้านอนเร็ว
2. เลิกสูบบุหรี่และดื่มเหล้า หรือลดปริมาณให้น้อยลง
3. ดื่มน้ำให้มากขึ้นและปัสสาวะให้มากขึ้น