ผู้เสียหายรุมแจ้งกองปราบฯ โดนอดีตครูจุ๋ม หลอกขายบ้านน็อคดาวน์/ลงทุนหินคลุก/รับจ้างสร้างบ้านไม่เสร็จ สูญเงินร่วม 20 ล้าน
วันที่ 8 ก.ค.67 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พหลโยธิน จตุจักร กทม. กลุ่มผู้เสียหายกว่า 20 คนจากหลายจังหวัด ถูกอดีตครูจุ๋ม ภณาพร(สงวนนามสกุล)อายุ 38 ปี เจ้าของ“โคกหนองนาโนงแพง”หลอกยืมเงิน หลอกทำธุรกิจหินคลุกบ้าง บ้านน็อกดาวน์บ้าง บางรายว่าจ้างให้ก่อสร้างบ้าน เบิกเงินค่าจ้างไปเกือบครบแต่ทิ้งงานสร้างไม่เสร็จ รวมๆ มูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท รวมตัวกันเข้าแจ้งความตำรวจกองปราบปรามให้ดำเนินคดีฐานฉ้อโกงประชาชน ตรวจสอบประวัติพบครูจุ๋มชอบโพสต์อวดรวย เคยเป็นข่าวดังเจ้าของโคกหนองนาโนงแพง เมื่อ พ.ศ.2564 นอกจากนี้ปีเดียวกันยังเคยถูกเจ้าหนี้ แจ้งความร่วมกับสามี ฉ้อโกงประชาชนและ พ.ร.บ.คอมพ์ฯ ศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ตัดสินลงโทษจำคุก 5 ปี แต่ให้รอลงอาญาเพราะสัญญาว่าจะหาเงินมาชดใช้ผู้เสียหาย 10 รายเป็นเงินรวมกับทั้งสิ้น 3.8 ล้านบาท แต่ยังไม่เข็ด กลับมาก่อเหตุหลอกลวงคนไปทั่วในครั้งนี้อีก
น.ส.เอ๋ (นามสมมุติ) อายุ 41 ปี เปิดเผยว่า ตนรู้จักครูจุ๋มผ่านทางเฟซบุ๊ก เธอแอดมาเป็นเพื่อนก่อน เขาจะแสดงความสนใจแบบที่เราเป็นคือสายบุญ บอกจะขอโอนเงินมาร่วมทำบุญด้วย สร้างความสนิทสนมให้เราไว้เนื้อเชื่อใจ จากนั้นได้ชวนให้ร่วมลงทุนสร้างบ้านน็อคดาวน์และหินคลุกขาย เพื่อหารายได้เสริม เมื่อได้กำไรแล้วแบ่งกันคนละครึ่ง
ตนใช้เงินออมส่วนหนึ่งและกู้ยืมจากเพื่อนมาเพิ่ม ทยอยโอนเงินให้ครูจุ๋ม ตั้งแต่เดือน ต.ค.66- ก.พ.67 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,279,900 บาท ได้โอนเงินคืนกลับมาบ้างเล็กน้อย แต่ไม่เป็นไปตามข้อตกลง จึงติดต่อขอเงินคืนทั้งหมด ครูจุ๋มบอกว่าเธอนำเงินที่ตนโอนให้ไม่ได้เอาไปลงทุนทำบ้านน็อคดาวน์ขาย แต่เอาไปใช้ถอนบ้านที่ดินแทน บอกนี้เก็บเงินลูกค้าไม่ได้บ้าง จ่ายเงินคืนด้วยเช็ค พอขึ้นเงินก็เด้ง จึงติดต่อนัดเจอ เธอก็อ้างสารพัดเหตุผล ทำให้ตอนนี้ตนมีหนี้สินที่หยิบยืมเพื่อนๆ มาอยู่นับล้านบาท ตนจึงได้ไปแจ้งความ สภ.บางบัวทอง นนทบุรี ไว้เป็นหลักฐานเมื่อ ก.พ.ที่ผ่านมา ก่อนผู้เสียหายคนอื่นๆ ติดต่อมาหาจึงทำให้รู้ถึงพฤติการณ์แสบของอดีตครูจุ๋มคนนี้
บรรดาผู้เสียหายช่วยกันเล่าพฤติการณ์แสบของอดีตครูจุ๋ม รายนี้ว่า รูปแบบการหลอกลวงที่ผู้เสียหายแต่ละคนโดนจะมีลักษณะคล้ายๆ ต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ปี 64 โดยเธอจะทำเป็นมาชวนคุย คอมเม้นท์ ทักเฟซบุ๊กหาเหยื่อหลอกตีสนิท ทำตัวเป็นสายเปย์ จะแสดงความห่วงใย โทรมาชวนคุย เทคแคร์ พูดจาดี โดยมักจะส่งภาพเงินสดเป็นปึกๆ ภาพบ้านหรูหรา ใช้รถยนต์ยุโรปหรู ส่งไปอวดเหยื่อ หลอกให้หลงเชื่อว่าเขาเป็นคนทำงานเก่ง เป็นคนขยันต่อสู้ชีวิต หาเงินคนเดียว ต้องเลี้ยงดูลูก เพราะถูกสามีทิ้งไปมีเมียน้อย จนต้องลาออกจากครูมาทำงานรับเหมาก่อสร้าง ทำงานทุกอย่าง พอเหยื่อหลงเชื่อตายใจ ก็จะหลอกขอยืมเงินด้วยการสร้างสตอรี่ เช่น กำลังอยู่หน้างานก่อสร้างที่ไม่มีตู้ เอทีเอ็ม.ขอร้องให้ช่วยโอนเงินให้ก่อน จำเป็นจะต้องใช้เงินในบัญชี เดี๋ยวจะรีบโอนคืน บางคนโดนอ้างว่าไม่มีทุนไปปิดงาน รับเหมางาน อบต. มาแล้วไม่อยากให้เสียงาน ขอยืมเงินไปซื้อของปิดงานก่อน ถ้าได้เช็คค่าจ้างิออกแล้วจะรีบเอามาคืน แต่สุดท้ายเหยื่อก็ไม่ได้เงินคืนอ้างว่าเช็คค่าจ้างนับมาเด้ง
นอกจากนี้บางรายโดนครูจุ๋มหลอกขายบ้านน๊อคดาวน์ อ้างว่ามีน้องจะขายบ้าง มีคนรู้จักจะขายบ้าง ไม่มีทุนขอโอนเงินมาให้ก่อนแล้วจะคืน ซึ่งทุกคนที่ให้เงินไปคือคนที่ไว้ใจครูจุ๋ม ชื่นชมและเชื่อในสิ่งที่เขาทำ สร้างสตอรี่ขึ้นมา อาศัยความสงสารลูกของเธอจึงหลงเชื่อให้เงินไปก่อน แต่ พอได้เงินไป กลังไม่มีใครได้เงินคืนสักรายเดียว ใครทวงใครด่า เธอจะบล๊อคทันที จนผู้เสียหายต้องไปแจ้งความดำเนืนคดี มีเรื่องต้องขึ้นศาลมาตลอด ผู้เสียหายแต่ละคนจะโดนคล้ายๆ กัน ซึ่งล้วนแต่เป็นคนใกล้ๆ ตัวเธอ ที่หลงเชื่อใจ บางคนเธอหลอกขอยืมเงินแล้วจะให้ดอกเบี้ย บางคนโดนทวงบุญคุณอ้างว่าเคยช่วยเขา แม้กระทั่งคนงาน ลูกน้อง คนสนิท ลูกค้า ก็โดนกันหมด ขอแค่ให้ได้เงินมาก่อน เธอไม่สนใจว่าเป็นใคร ไม่เกรงกลัวกฎหมาย จะจ้างทนายมาช่วยต่อสู้คดีให้ จะได้จ่ายเงืนคืนน้องลง เธอทำไม่หยุดจนถึงตอนนี้
อย่างรายล่าสุดเมื่อวาน ครูจุ๋ม รู้ข่าวว่าจะมีคนรวมตัวกันมาแจ้งความเธอที่กองปราบ ในวันนี้เธอรีบติดต่อคุณแม่ของน้องผู้หญิงคนหนึ่ง ที่จมน้ำตาย ที่โดนครูจุ๋มหลอกเองเงินบริจาคจำนวน 4 แสนบาทไป รีบเอาเงินดังกล่าวไปคืนทันทีเพื่อไม่ต้องการให้คุณแม่รายนั้นมาแจ้งความด้วยเพราะเกรงว่าจะโดนสื่อฯ เชื่อโยงจะได้ไม่เป็นข่าวใหญ่โต
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน บก.ป.ตรวจสอบผู้เสียหายก่อนจะดำเนินการหาทางช่วยเหลือตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน