ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.3 บก.ปอท. ร่วมกันจับกุม นายเฉลิมวุฒิฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ2839/2567 ลงวันที่ 19 มิถุนายน 2567 ในความผิดฐาน “รีดเอาทรัพย์ และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันมีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 338 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 มาตรา 14(4)

พฤติการณ์ ก่อนเกิดเหตุช่วงประมาณปี พ.ศ.2560 ผู้เสียหายซึ่งเป็นชาวต่างชาติได้คบหากับ นายเฉลิมวุฒิฯ (ผู้ต้องหา) โดยในระหว่างคบหากัน ผู้เสียหายได้เดินทางมาหานายเฉลิมวุฒิฯ ที่ประเทศไทย และได้มีการถ่ายภาพขณะร่วมเพศกันไว้ ต่อมาเมื่อผู้เสียหายย้ายไปทำงานที่ประเทศเวียดนาม นายเฉลิมวุฒิฯ ก็ได้เดินทางไปหาผู้เสียหาย ซึ่งระหว่างที่อยู่ที่ประเทศเวียดนาม ทั้งสองได้มีปากเสียงกัน นายเฉลิมวุฒิฯ จึงถูกผู้เสียหายไล่ออกจากห้องพัก และเดินทางกลับประเทศไทย

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2562 ผู้เสียหายได้ถูกนายเฉลิมวุฒิฯ ส่งข้อความมาข่มขู่ว่าหากไม่ให้เงินจำนวน 900 ยูโร จะนำภาพลามกอนาจารของผู้เสียหายไปเปิดเผย จากนั้นผู้ต้องหาได้สร้างบัญชี social media ขึ้นมาและได้นำภาพลามกอนาจารของผู้เสียหายไปโพสต์ในหลายๆ แพลตฟอร์ม จนผู้เสียหายจำใจโอนเงินไปให้ผู้ต้องหาจำนวน 900 ยูโร จากนั้นผู้เสียหายจึงได้แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมาย

ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. ได้ดำเนินการสืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในพื้นที่เมืองพัทยา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหา และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การเบื้องต้น นายเฉลิมวุฒิฯ ให้การรับว่าได้รู้จักและคบหากับผู้เสียหายจริง แต่ต่อมาถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บและถูกผู้เสียหายไล่ออกจากห้อง จากนั้นเมื่อเดินทางกลับประเทศไทย ตนเองไม่ได้รับเงินค่าเลี้ยงดูและไม่สามารถติดต่อกับผู้เสียหายได้อีก จึงโกรธและพยายามติดต่อเพื่อเรียกเงินจาก ผู้เสียหาย ต่อมาจึงได้นำภาพลามกอนาจารไปโพสต์

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน