สลด! ชายวัย 70 อยู่บ้านลำพัง ภรรยากลับต่างประเทศ จู่ ๆ เกิดเสียงบึ้มดังสนั่น ไฟลุกไหม้คลอกดับอนาถ

สลด! ชายวัย 70 อยู่บ้านลำพัง ภรรยากลับต่างประเทศ จู่ ๆ เกิดเสียงบึ้มดังสนั่น ไฟลุกไหม้คลอกดับอนาถ

เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 2 ก.ค. 2567 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าม่วง ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านในพื้นที่บ้านหัวกรวย หมู่ 4 ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี จึงได้ประสานไปยังเทศบาลตำบลท่าล้อให้นำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ พร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิขุนรัตนาวุธเข้าอำนวยความสะดวกในพื้นที่

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวสามหลัง ปลูกติดกันในพื้นที่เดียวกัน โดยต้นเพลิงลุกไหม้ขึ้นหลังที่สาม ซึ่งตัวบ้านมีไม้เป็นส่วนประกอบ มีอุปกรณ์เครื่องมือช่าง ถังสี ฯลฯ ทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงได้ระดมฉีดน้ำไม่ให้ไฟลุกลามไปยังบ้านข้างเคียง โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้

หลังจากเพลิงสงบลง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบภายในตัวบ้าน พบมีร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย ถูกไฟคลอกจนเสียชีวิต ต่อมาทราบชื่อคือนายสตีเฟน อายุประมาณ 70 ปี เป็นชาวอเมริกัน ตรวจสอบรอบที่เกิดเหตุพบ เครื่องมือช่างเป็นจำนวนมาก คาดว่าผู้เสียชีวิตน่าจะมีอาชีพเป็นช่าง

จากนั้น นายนพพล สุกิจปราณีนิจ นายอำเภอท่าม่วง ทราบเรื่องจึงเดินทางมาดูในที่เกิดเหตุด้วยตนเอง พร้อมด้วย กำนัน ผู้ใหญ่ นายกเทศมนตรีตำบลท่าล้อ เจ้าหน้าตำรวจ สภ.ท่าม่วง จากการสอบถามเพื่อนบ้านรายหนึ่ง บอกว่า ช่วงประมาณตีหนึ่งกว่า ๆ ได้ยินเสียงคลายเหมือนระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว จึงรีบออกมาดู ก่อนที่จะมีไฟลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาดับไฟ

ต่อมา เพื่อนชาวอเมริกันของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุพร้อมกับภรรยา โดยบอกว่า ผู้เสียชีวิตได้มาเช่าอาศัยอยู่ที่นี่ได้เกือบ 2 ปีแล้ว อาศัยอยู่ภรรยาเป็นชาวฟิลิปปินส์ อายุประมาณ 50 ปี มีอาชีพเป็นครูสอนภาษาที่กรุงเทพฯ โดยเมื่อ 2 วันที่แล้วทางภรรยาของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางกลับประเทศเพื่อไปเยี่ยมครอบครัวและจะเดินกลับไทยได้ต้องครบ 10 วันก่อน ไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่บ้านเพียงลำพัง มีนิสัยชอบดื่มเหล้าเป็นชีวิตจิตใจ

เบื้องต้น คาดว่าสาเหตุการระเบิด น่าจะมาจากถังสี เพราะผู้เสียชีวิตเป็นช่าง และชอบต่อเติมบ้าน แต่อย่างไรก็ตามทางตำรวจจะได้ให้พิสูจน์หลักฐานมาเก็บรายละเอียดว่าสาเหตุของการระเบิดในครั้งนี้เกิดมาจากอะไรกันแน่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ