รวบหนุ่มหื่น หลอกเด็กหญิง สุดท้ายลวงไปข่มขืนในป่าสวนยาง พบประวัติอื้อคดีเพียบ

รวบหนุ่มหื่น หลอกเด็กหญิง สุดท้ายลวงไปข่มขืนในป่าสวนยาง พบประวัติอื้อคดีเพียบ

วันที่ 29 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงานว่า กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้ร่วมกันจับกุม นายอิบรอเฮงฯ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของผู้ต้องหาตามหมายจับของ ศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ 195/2567 ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2567 “ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยใช้อาวุธ (มีด), กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, ข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือผู้อื่น โดยมีอาวุธ (มีด), พรากเด็กอายุ ยังไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองโดยปราศจากเหตุอันควร เพื่อการอนาจาร, ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือตกใจ โดยการขู่เข็ญ” สถานที่จับกุม ม.3 ต.ตะโละไกรทอง อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี 

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2567 นายอิบรอเฮงฯ ผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางมาทำงานรับจ้างรับซื้อเศษเหล็ก บ้านโคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และได้อาศัยพักอยู่ใกล้กับบ้านของ น.ส.มารีย๊ะฯ มารดาของ ด.ญ.นีฯ (นามสมมุติ) ซึ่งได้รู้จักกันมาก่อนและเป็นญาติห่างๆ และได้เข้าไปแวะพูดคุยในฐานะญาติ ต่อมานายอิบรอเฮงฯ ได้ล่อลวง ด.ญ.นีฯ โดยออกอุบายว่าช่วยไปขนของที่บ้าน ด้วยความคุ้นเคยและเป็นญาติของมารดา ด.ญ.นีฯ ไปช่วยขนของเสร็จระหว่างทาง นายอิบรอเฮง ฯ ได้ขับรถเข้าไปจอดบริเวณในป่าสวนยางพา ด.ญ.นีฯ ลงมือข่มขืน จนสำเร็จความใคร่ แล้วจึงพากลับมาส่งที่บ้าน ต่อมา ด.ญ.นีฯ ได้แจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นให้ผู้ปกครองทราบ จึงพา ด.ญ.นี ฯ นามสมมุติ มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้สืบสวนทราบว่า นายอิบรอเฮงฯ ได้หลบหนีและมาพักอยู่ที่ ม.๓ ต.ตะโละไกรทอง อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี เจ้าพนักงานตำรวจจึงวางแผนเข้าทำการจับกุมและได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.รือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ