ทุนจดทะเบียนเลิกกิจการของไทย พุ่ง 5.4 หมื่นล้าน เพิ่มขึ้น 975% สวนทางธุรกิจ Art Toy
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ในเดือน พ.ค. นี้เอง ไทยมีการจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการ ร่วม 1,004 ราย เพิ่มขึ้นถึง 23.95% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกกิจการ ถือว่า อยู่ในภาวะ สูงผิดปกติ ที่ 54,804.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49,707 ล้านบาท คิดเป็น 975.26% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 46,564 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 565.11% เมื่อเทียบกับปี 2566 ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการเลิกประกอบกิจการของ 2 บริษัทขนาดใหญ่ ที่ต้องการปรับโครงสร้างการดำเนินงานของธุรกิจให้คล่องตัวยิ่งขึ้น
สำหรับธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการ 3 อันดับแรก ได้แก่
1 ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 98 ราย
2 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 59 ราย
3 ธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการอื่นๆ 25 ราย ส่งผลให้ ปัจจุบัน ณ 31 พ.ค. 2567 ประเทศไทย มีธุรกิจที่จดทะเบียนนิติบุคคลรวมทั้งสิ้น 1,916,267 ราย โดยจำนวนนี้เป็นนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่จำนวน 916,634 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 22.26 ล้านล้านบาท
ธุรกิจ Art Toy กำไรพุ่ง
จากกระแสสะสม ของเล่น ของกลุ่มผู้ใหญ่กำลังซื้อสูง ขณะ งบการเงินประจำปี 2566 พบว่า รายได้ของนิติบุคคลทั่วประเทศ มีจำนวนกว่า 57.86 ล้านล้านบาท และมีผลกำไรกว่า 2.34 ล้านล้านบาท โดยกลุ่มภาคการผลิต สามารถทำรายได้สูงสุด รองลงมา กลุ่มภาคขายส่ง/ปลีก และ กลุ่มภาคบริการ ส่วนธุรกิจมาแรง ที่น่าจับตามอง กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า
จากกระแส Art Toy ของเล่นสะสมที่สร้างสรรค์งานศิลปะโดยศิลปินจากต่างประเทศและศิลปินไทย ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมทั่วโลก ส่งผลให้ ธุรกิจของเล่น กลายเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีการจัดตั้งธุรกิจใหม่ และ ผลประกอบการ-กำไร ที่ดี ทั้งกลุ่มบริษัทที่ทำหน้าที่ผลิต และ กลุ่มผู้ขาย โดย ปี 2566 ธุรกิจของเล่นสามารถสร้างรายได้รวมถึง 19,677.21 ล้านบาท
และทำกำไรได้ 467.62 ล้านบาท การเติบโตของธุรกิจของเล่น ซึ่งแรงผลักดันสำคัญ มาจากการเกิดกลุ่มในวงการของเล่นที่เรียกว่า Kidult หรือ กลุ่มผู้ใหญ่ที่มีความนิยมในการสะสมของเล่นและมีกำลังการซื้อสูง เพื่อตอบสนองความต้องการของตนเองในวัยเด็ก และสะสมเพื่อสร้างรายได้ในอนาคต