รวบผัวเมียนายหน้าบัญชีม้าบริษัท เครือข่ายทนายฮ่องกงเก๊ ตุ๋นเหยื่อสูญเงินกว่า 5 ล้าน
สืบเนื่องจากผู้เสียหายต้องการใช้บริการทนายความที่สามารถฟ้องคดีที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ จึงได้เข้าเว็บไซต์ แล้วใช้เครื่องมือ Search Engine เพื่อลองค้นหา จากนั้นพบลิงก์ที่มีรายละเอียดเป็นภาษาจีน ผู้เสียหายจึงได้ลองใช้ Google Translate ช่วยแปลภาษาพบว่าเป็นลิงก์เกี่ยวกับทนายความตรงตามที่ผู้เสียหายต้องการ จึงได้ติดต่อกับบุคคลที่อ้างว่าเป็นทนายความในประเทศฮ่องกง ผ่านแอปพลิเคชันWhatsApp และได้สนทนาเกี่ยวกับการฟ้องร้องคดีในต่างประเทศให้แก่ผู้เสียหายเป็นภาษาจีน โดยใช้ Google Translate เรื่อยมา ต่อมาผู้ใช้งาน WhatsApp คนดังกล่าวได้แจ้งให้ผู้เสียหายจ่ายค่าดำเนินการต่างๆ เกี่ยวกับการฟ้องร้องคดี ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไปยังบัญชีปลายทางที่เป็นชื่อบริษัทตามที่ผู้ใช้งาน WhatsApp แจ้ง จำนวนหลายครั้ง รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 5,348,900 บาท สุดท้ายการฟ้องร้องคดีก็ไม่มีอะไรคืบหน้า จนมารู้ตัวทีหลังว่าโดนหลอกลวง และได้เข้าแจ้งความร้องทุกในเวลาต่อมา
ต่อมา พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงได้สั่งการ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจออกสืบสวนสวนหาตัวผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาไปได้แล้วหลายราย และสามารถจับกุมไปได้แล้วบางส่วน
กระทั่งพ.ต.อ.พิเชียรยศ อรุณพันธกุล ผกก.1 บก.สอท.1 ได้กำลังเจ้าหน้าที่พร้อมหมายจับเข้าควบคุมตัว น.ส.สมหญิง อายุ 30 ปี และนายพิทยา อายุ 31 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นคู่สามี-ภรรยา ทำหน้าที่นายหน้าจัดหาบัญชีม้า ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกืดความเสียหายแก่ประชาชน และเป็นผู้เปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตน หรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรจะรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดอาญาอื่นใด” โดยควบคุมตัวได้ที่บริเวณอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในพื้นที่ ซอยราษฎร์บูรณะ 32 แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร
เบื้องต้น พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ ฯ ผบก.สอท.1 ได้ซักถามผู้ถูกจับทั้ง 2 จนยอมรับว่าเป็นนายหน้าจัดหาบัญชีธนาคารจริง โดยเมื่อประมาณต้นปี 2567 พวกตนได้เข้าไปหางานในกลุ่มเฟซบ๊ก “ดาร์กเว็ป สายเทา บัญชีม้า” ต่อมาได้มีนายเจฟ (ซึ่งคาดว่าเป็นชาวจีนและติดต่อมาจากต่างประเทศ แต่ตนจำชื่อเฟซบุ๊กไม่ได้) ได้ติดต่อว่าจ้างให้เป็นพวกตนเป็นคนกลางเปิดบัญชีเงินฝากออนไลน์ให้ โดยจะส่งข้อมูลและอุปกรณ์ที่ต้องใช้เปิดบัญชีมาให้ ต่อมาได้มีไรเดอร์ของบริษัทหนึ่งได้นำส่งสมุดบัญชีธนาคาร โทรศัพท์ซิมการ์ด บัตรATM และหนังสือจดทะเบียนบริษัทพร้อมตราประทับมาให้พวกตน จึงได้ดำเนินการเปิดบัญชีออนไลน์ดังกล่าวให้ เมื่อเปิดบัญชีเสร็จแล้วก็จะมีคนส่งไรเดอร์มารับบัญชีธนาคารไป จากนั้นก็มีไรเดอร์นำส่งเงินสดค่าจ้างมาให้ เป็นค่าเปิดบัญชี จำนวน 5,000 บาท โดยพวกตนได้ทำมาแล้วจำนวน 10 ครั้ง จนมาถูกจับกุมในที่สุด
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งขยายผลเพื่อจับกุมผู้สั่งการและผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีต่อไป
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน