บุกรวบสองผัวเมียหมายจับอื้อ หลอกลงทุนเทรดหุ้นคริปโต เสียหายหลายแสนบาท
กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.3 บก.ป. ร่วมกันจับกุม 1.นายพงศักดิ์ฯ อายุ 51 ปี 2.นาง ไพลินฯ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 1. ศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ. 496/2566 ลงวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 , ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือหลอกหลวง นำข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน 2. ศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 742/2566 ลงวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น
3. ศาลจังหวัดอุบลราชธานี ที่ จ. 147/2567 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์โดยแสดงตนเป็นคนอื่นและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ รวม 3 หมาย 4.ศาลจังหวัดอุทัยธานี ที่ จ. 219/2566 ลงวันที่ 8 กันยายน 2566 , ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ฉ้อโกง และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือ ประชาชน สถานที่จับกุม บริเวณริมถนน ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41 (ถนนเอเซีย) ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร
พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก นายพงษ์ศักดิ์ฯ และนางไพลินฯ คู่สามีภรรยา ได้ประกาศเชิญชวนผู้ที่สนใจเทรดหุ้นคริปโต ให้แอดไลน์หาตน โดยตนจะเป็นผู้พาเทรดลงทุนหุ้นคริปโต จนทำให้เหยื่อหลงเชื่อ เนื่องจากมีผลตอบแทนสูง จึงโอนเงินเข้าบัญชี นายพงษ์ศักดิ์ฯ เพื่อเทรดหุ้นดังกล่าว โดยมีผู้เสีหายหลายราย ซึ่งมีความเสียหายรวมหลายแสน เมื่อผู้เสียหายเข้าไปเข้าไปยังเว็บหรือแพลตฟอร์มดังกล่าวที่นายพงษ์ศักดิ์ฯ และนางไพลินฯ ทำขึ้น และไม่สามารถถอนเงินดังกล่าวออกมาได้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ทราบว่า นายพงษ์ศักดิ์ฯ และนางไพลินฯ ได้ปรากฏตัวอยู่บริเวณริมถนน ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41 (ถนนเอเซีย ) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าว จนกระทั่งได้พบชายและหญิงมีตำหนิรูปพรรณตรงกับบุคคลตามหมายจับข้างต้นปรากฏตัวอยู่ที่บริเวณสถานที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าแสดงตัวและได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้นจนทราบว่าคือ นายพงษ์ศักดิ์ฯ และนางไพลินฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวข้างต้น จากนั้นจึงได้แสดงหมายจับให้ดูและแจ้งให้ทราบว่าจะต้องถูกจับ พร้อมควบคุมตัวมาจัดทำบันทึกการจับกุม สภ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ก่อนนำตัวส่ง สภ.ดอนหัวฬ่อ และศาลจังหวัดอุทัยธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน