หลานร้องขอความเป็นธรรม น้าชายถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ผ่านไปครึ่งปีคดีไม่คืบ ผู้ก่อเหตุยังเดินลอยนวลอยู่แถวบ้าน

หลานร้องขอความเป็นธรรม น้าชายถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ผ่านไปครึ่งปีคดีไม่คืบ ผู้ก่อเหตุยังเดินลอยนวลอยู่แถวบ้าน

วันที่ 23 มิถุนายน 2567 ที่เพจเฟซบุ๊ก สายไหม ต้องรอด เขตสายไหม กทม. พี่สาวและหลานชาย นายไผ่ สรงพรมทิพย์ เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด

นายสุทธิพงศ์ บุญเปรื่อง หลานชายผู้เสียชีวิต เล่าว่า จากเหตุการณ์วันที่ 13 มกราคม 2567 เวลาประมาณสี่ทุ่มครึ่งคืนนั้นตัวเองดูจากกล้องวงจรปิดลริเวณหย้าร้านขายของ ในกล้องวงจรปิดเห็นน้าชาย เดินออกมาบริเวณคอกวัวหน้าบ้าน จังหวะนั้น เห็นกลุ่มผู้ก่อเหตุประมาณ 10 คน วิ่งเข้ามาภายในพื้นที่บ้าน ก่อนใช้มีด ใช้ไม้รุมทำร้ายน้าชายจนเสียชีวิต สภาพนั่งเสียชีวิตอยู่บริเวณโต๊ะหน้าบ้าน โดยตัวเองไม่รู้สาเหตุการรุมทำร้ายที่เกิดขึ้น

รู้เพียงว่าก่อนหน้านี้กลุ่มผู้ก่อเหตุบางส่วนเคยนำหนังสติ๊กยิงก้อนหินเข้ามาโดนกรอบรูปยาย ซึ่งเป็นแม่ของผู้เสียชีวิตแตกทำให้ผู้เสียชีวิตโกรธเคืองกลุ่มนี้และก็มักจะมีการกระทบกระทั่งกันอยู่บ่อยบ่อยโดยกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุมักจะเร่งเครื่องรถจักรยานยนต์ ตะ และยิงในสติเข้ามาภายในบ้านแกล้งน้าชายอยู่บ่อย ๆ

ด้านนางต้อย บุญเปรื่อง พี่สาวผู้เสียชีวิต บอกต่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ก่อนจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ว่า ทางครอบครัวติดใจอยากรู้ว่าเหตุผลอะไรถึงมาฆ่าน้องชายของตัวเอง ทั้งที่ไม่เคยมีปัญหาอะไรกันมาก่อน ซึ่งน้องชายทำมาหากินปกติไม่เคยไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร ในฐานะพี่สาวรู้สึกโกรธแค้น และเสียใจความสูญเสียผ่านมาครึ่งปีคดียังไม่มีความคืบหน้า ตำรวจมาลงพื้นที่แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุมีประมาณ 10 คนแต่ตำรวจจับตัวแจ้งข้อหาส่งฟ้องเพียงแค่คนเดียว ส่วนที่เหลือก็ยังคงลอยนวลใช้ชีวิตผ่านมาในละแวกบ้านปกติ

ขณะที่ ตลอดระยะเวลาตั้งแต่น้องชายเสียชีวิต ตัวเองและลูก เป็นคนหาหลักฐานทุกอย่างด้วยตัวเอง ทั้งกล้องวงจรปิด และหลักฐานทุกอย่าง ซึ่งตอนนั้นตำรวจก็ให้ความมั่นใจตลอดว่าจะให้ความเป็นธรรมแต่สุดท้ายผู้ก่อเหตุที่เหลือก็ถูกดำเนินคดี โดยมีครั้งนึงร้อยเวรเจ้าของคดี ของ สภ. กำแพงแสน บอกกับตัวเองว่าให้อยู่เฉยเฉยไม่ต้องพูดอะไรเดี๋ยวตำรวจดำเนินการเอง ยอมรับว่าตอนนี้รู้สึกหวาดกลัวกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เหลือ ที่ยังลอยนวล ห่วงลูกและห่วงคนในครอบครัว

นอกจากนี้ นางต้อย ยังบอกว่า ช่วงที่น้องชายเสียชีวิตตัวเองสัมผัสได้ ทั้งฝันถึง และรู้สึกว่าน้องชายมาหา รวมถึงมาเข้าร่างตัวเองบอกว่า ตอนนี้เจ็บมากช่วยด้วยยิ่งทำให้ตัวเองรู้สึกเสียใจเสียใจที่ยังไม่สามารถช่วยน้องชายได้และคนที่ทำร้ายน้องชายก็ยังลอยนวลจึงอยากถามไปถึงผู้ใหญ่บ้านเมืองว่าการฆ่าคนตายไม่มีความผิดหรืออย่างไร

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ