รวบแก๊งเงินกู้นอกระบบร่อนนามบัตร โปรยเกลื่อนหน้าบ้านเช้า-เย็น
วันที่ 15 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่สวสยามนิวส์ รายงานว่า กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นกก.5 บก.ปอศ. ร่วมกันกล่าวโทษ 2 ราย ได้แก่ 1. นายอภิชาตฯ อายุ 33 ปี 2. นายสุรศักดิ์ฯ อายุ 24 ปี ในความผิดฐาน ประกอบธุรกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
พร้อมตรวจยึดของกลาง ดังนี้ 1. สมุดบัญชีธนาคาร 4 เล่ม 2. โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง 3. สมุดบันทึกข้อมูลลูกหนี้ 4. โน๊ตบุ๊ค 1 เครื่อง 5. นามบัตรเงินกู้ 1 ลัง 6. สัญญาเงินกู้ สถานที่จับกุม ในท้องที่เขตจอมทอง จังหวัดกรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากประมาณ เดือน มีนาคม 2567 มีสื่อเฟซบุ๊ก โพสคลิบวีดีโอพร้อมข้อความว่า ไม่ไหวแล้ว แก๊งเงินกู้นอกระบบ ร่อนนามบัตร โปรยเกลื่อนหน้าบ้านเช้า-เย็น จนวีดีโอคลิบดังกล่าวถูกแชร์ไปในหลายๆ เพจเฟซบุ๊ก และมีคนมาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ประกอบกับมีผู้เสียหายร้องเรียนมายังศูนย์ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับพฤติกรรมเจ้าหนี้นอกระบบ ซึ่งปล่อยเงินกู้ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และสร้างความเดือดร้อนในแก่ประชาชนทั่วไปเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจนพบว่ากลุ่มคนร้ายได้ที่โปรยนามบัตรดังกล่าว จากการลงพื้นที่ทำการสืบสวน พบกลุ่มคนร้ายมีพฤติการณ์โปรยนามบัตรเพื่อชักชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปกู้เงิน จะมีการออกมาโปรยใบปลิวในช่วงเช้ามืด และช่วงเย็น ตามสถานที่ที่มีประชาชนพลุ่กพล่าน โดยมีกลุ่มเป้าหมายเน้นไปที่กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนถูกกฎหมายได้ และประชาชนทั่วไปอ้างว่าขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อไม่ยุ่งยาก และไม่จำเป็นต้องใช้หลักฐานยืนยันตัวตน และไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน โดยคิดอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 20 ต่อ 24 วัน เช่น เงินกู้ 10,000 บาท จะต้องจ่ายดอกเบี้ยรวมเงินต้นทุกวัน วันละ 500 บาท จนครบ 24 วัน คิดเป็นเงิน 12,000 บาท หรือ ดอกเบี้ย ร้อยละ 304 ต่อปี ซึ่งเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด และหากลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ ก็จะใช้วิธีการโทรศัพท์ขมขู่ และไปกดดันผู้กู้ถึงที่บ้านและที่ทำงาน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการสืบสวนจนทราบสำนักงานของกลุ่มคนร้าย จึงได้ขออนุมัติหมายค้น จากศาลอาญาธนบุรี จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. นำกำลังเข้าตรวจค้น บ้านพัก ในเขตจอมทอง จังหวัดกรุงเทพฯ ตรวจยึดพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบปากคำเบื้องต้น นายนายอภิชาตฯ รับว่าตนเป็นผู้ให้เงินทุนกับนายสุรศักดิ์ฯ เพื่อนำไปปล่อยเงินกู้ให้กับผู้ที่สนใจและต้องการเงินทุนในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ในส่วนของนายนายสุรศักดิ์ฯ รับว่า มีหน้าที่หาลูกค้าโดยการโปรยนามบัตรตามสถานที่ต่างๆ และนำเงินกู้จากนายนายอภิชาตฯ ไปปล่อยให้กับผู้ที่สนใจและเก็บดอกเบี้ยจากลูกหนี้โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นพ่อค้าและแม่ค้าทั่วไปที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน
จากข้อเท็จจริงดังกล่าวเชื่อว่า บุคคลทั้ง 2 คน ได้ร่วมกันปล่อยเงินกู้โดยใช้วิธีการแจกใบปลิวตามแหล่งชุมชน และตลาดนัดที่มีพ่อค้าแม่ค้าอยู่จำนวนมาก รวมถึง มีกลุ่มบุคคลที่มีความต้องการในการใช้จ่ายรายวันสูง โดยจะแบ่งหน้าที่กันทำ โดยจะเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และมีพฤติการณ์ทวงถามหนี้ในลักษณะข่มขู่ฯ จึงได้ดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวในฐานความผิด ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ.ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน