รวบเพื่อนบ้านแสบ ชักชวนลงทุนปล่อยสินเชื่อ ความเสียหายกว่า 7 ล้านบาท
วันที่ 12 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงานว่า กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม น.ส.เพ็ญพิชาฯ หรือ รชยาฯ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1756/2567 ลง 24 เมษายน 2567 ในฐานความผิด ฉ้อโกงทรัพย์, กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้าน หมู่ที่ 11 ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2566 มีกลุ่มผู้เสียหายจำนวน 10 คน มาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ บก.ปอศ. ด้วยเหตุเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2565 ผู้ต้องหาได้ชักชวนผู้เสียหายกับพวก มาร่วมลงทุนในธุรกิจซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นธุรกิจปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล โดยมีตัวอย่างการลงทุนในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น จำนองที่ดิน จำนำรถยนต์ ฯลฯ พร้อมเสนอผลตอบแทนและระยะเวลาในการลงทุน ในสินทรัพย์ต่างๆ โดยให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งจะมีทรัพย์สินมาให้ผู้เสียหายลงทุนทุกวันและเสนอผลตอบแทนรายวันในอัตราสูงตั้งแต่ 100 ถึง 20,000 เปอร์เซ็นต์ ของเงินลงทุนต่อปี
โดยผู้ต้องหาจะเป็นผู้นำเงินไปลงทุนในธุรกิจที่กล่าวอ้างด้วยตนเองและจะแบ่งผลตอบแทนมาให้ตามสัดส่วนของการลงทุน ผู้เสียหายจึงเชื่อว่ามีการทำธุรกิจจริงจึงตัดสินใจร่วมลงทุน โดยโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของผู้ต้องหาจำนวนหลายบัญชีหลายธนาคาร ซึ่งในช่วงแรกหลังจากที่ได้ร่วมลงทุน ผู้เสียหายได้รับผลตอบแทนตามที่ผู้ต้องหาชักชวนจริง จากนั้นได้มีการชี้ชวนให้ลงทุนเพิ่มทุกๆ วัน โดยจะมีทรัพย์สินให้ร่วมลงทุนเป็นจำนวนมากและระบุผลกำไรที่จะได้รับ จนกระทั่งเมื่อประมาณเดือนตุลาคม 2565 ผู้ต้องหาเริ่มผัดผ่อนไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนและเงินลงทุนคืนให้แก่ผู้เสียหายได้ ผู้เสียหายได้ติดพยามยามติดตามทวงถาม จนกระทั่งผู้ต้องหาได้หลบหนีไปเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายรวมเป็นเงิน 7,326,937 บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปอศ. จึงได้ทำการสืบสวนขยายผล กรณีถูกหลอกให้ร่วมลงทุนดังกล่าว จนทราบว่าคนร้ายมีพฤติการณ์สร้างกลอุบายเพื่อหลอกลวงเหยื่อโดยไม่มีการประกอบธุรกิจการปล่อยสินเชื่อในสินทรัพย์ต่างๆ ตามที่กล่าวอ้าง นอกจากนี้ยังพบลักษณะการหมุนเวียนเงินจากผู้ลงทุนรายเดิมไปยังผู้ลงทุนรายใหม่ในระยะเวลาอันรวดเร็วและบางส่วนมีการนำไปซื้อทรัพย์สินต่างๆ เป็นของตนเอง ต่อมาพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติต่อศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. สืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหา นำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การเพิ่มเติมว่าให้การว่า ไม่สามารถหมุนเวียนเงินลงทุนและผลตอบแทนไปจ่ายให้ผู้เสียหายได้ตามกำหนดระยะเวลาจึงหลีกเลี่ยงที่จะพบและติดต่อกับผู้เสียหาย
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน