อนุมัติ เงินดิจิทัล เติมเงิน 10,000 บาท ผู้ถือบัตรคนจน ยืนยันได้เงินพร้อมกันทุกกลุ่ม
อัปเดตล่าสุดดิจิทัลวอลเล็ต เงินดิจิทัล 10,000 บาท ยืนยันชัดเจนแล้วว่ากลุ่มเปราะบาง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน จะได้เข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลยืนยัน ได้เงินพร้อมกันทุกคน ไม่มีกลุ่มไหนได้เงินก่อน หลังมีข่าวลือว่ากลุ่มเปราะบาง ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับเงินเป็นกลุ่มแรกในวันที่ 30 ก.ย.67 นี้
โดยนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า จะไม่มีการพิจารณาให้กลุ่มไหนก่อน และที่ผ่านมาก็ไม่มีการพิจารณาให้กลุ่มไหนเป็นเฉพาะตั้งแต่แรก ทุกคนควรได้พร้อมกัน ในระยะเวลาเดียวกัน และ ในจำนวนเงินที่เท่ากัน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะมีเม็ดเงินจำนวนมากลงไปในระบบพร้อมกัน
ทั้งนี้การดำเนินการโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล โดยที่ประชุมได้กำหนดงบฯ เพิ่มเติมปี 67 จำนวน 122,000 ล้านบาท สำหรับเป็นงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ โดยมีแหล่งเงินจากการจัดเก็บรายได้ที่เดิมไม่ได้กำหนดไว้จำนวน 10,000 ล้านบาท และเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 112,000 ล้านบาท
ซึ่งวงเงินงบฯ เพิ่มเติมปี 67 จำนวน 122,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับงบฯ ปี 67 จำนวน 3,480,000 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,602,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบฯ 66 จำนวน 417,000 ล้านบาท (ร้อยละ 13.1) ซึ่งเท่ากับกรอบวงเงินตามแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบฯ 68-71) ฉบับทบทวน ครั้งที่ 2 และสำหรับงบลงทุนฯ และงบฯ ชำระคืนต้นเงินกู้ มีสัดส่วนอยู่ภายในกรอบที่กำหนดตาม พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561
สำหรับการลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาท เบื้องต้นกระทรวงการคลังได้เคาะเกณฑ์การแจกแล้ว โดยเกณฑ์ผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ กำหนดไว้ดังนี้
เกณฑ์อายุ 16 ปี จะต้องมีอายุ 16 ปีบริบูรณ์ ภายในวันที่ 30 กันยายน 2567
เกณฑ์เงินฝากกำหนดไม่เกิน 500,000 บาท ทั้งในส่วนของธนาคารพาณิชย์ และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ อาทิ เงินฝากกระแสรายวัน เงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจำ บัตรเงินฝาก ใบรับเงินฝาก ผลิตภัณฑ์เงินฝาก แต่ไม่นับรวมสลากออมทรัพย์ นับยอดบัญชีเงินฝากถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567 เงินฝากอยู่ในสกุลเงินบาทเท่านั้น
เกณฑ์รายได้วัดจากฐานข้อมูลเงินได้ของกรมสรรพากร ณ ปี 2566 ซึ่งสิ้นสุดไปแล้วเมื่อ 31 ธันวาคม 2566 ซึ่งกำหนดว่าจะต้องไม่เกิน 840,000 บาท
การลงทะเบียนเริ่มต้นภายในไตรมาส 3
เกณฑ์ซื้อสินค้า ยังเป็นสินค้ากลุ่มเดิม ยกเว้นบริการและสินค้าต้องห้าม
เกณฑ์ร้านค้าขนาดเล็ก ยังเป็นเหมือนเดิม เข้าร่วมได้ทั้งนิติบุคคล และบุคคลธรรมดา ยกเว้น ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต
พร้อมมีการอัปเดตยืนยันว่าจะใช้แอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" ในการใช้จ่ายโครงการ ซึ่งหากใครยังไม่เคยสมัครใช้บริการ ก็สามารถดาวน์โหลดได้ผ่าน App Store และ Google Play เตรียมพร้อมไว้ก่อน ลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยสมัครง่ายๆ 4 ขั้นตอนดังนี้
1.ดาวน์โหลดแอปฯ ทางรัฐ
2.เปิดแอปฯ ทางรัฐ แล้วเลือกสมัครสมาชิก
3.สแกนบัตรประชาชน และใบหน้าของผู้ใช้งาน
4.ระบุบัญชีผู้ใช้และรหัสผ่านเพื่อเริ่มใช้งาน
5.ใช้งานบริการจากภาครัฐได้ทันที