สาบเสือ ไม่ใช่แค่วัชพืชธรรมดา แต่มีประโยชน์มากกว่าที่คิด

สาบเสือ ไม่ใช่แค่วัชพืชธรรมดา แต่มีประโยชน์มากกว่าที่คิด

หากกล่าวถึง สาบเสือ เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะรู้จักพืชชนิดนี้เป็นอย่างดี เพราะเป็นยาสามัญประจำท้องทุ่ง เมื่อเจออุบัติเหตุเกิดบาดแผลเล็กน้อยจากการวิ่งเล่น ก็จะนำใบมาขยี้แล้วนำไปฟอกที่บริเวณบาดแผล เพื่อเป็นการห้ามเลือด

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Eupatorium odoratum Linn. ชื่อวงศ์ : COMPOSITAE เป็นวัชพืช เป็นพืชต่างถิ่นรุกราน ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในอเมริกากลาง มีเขตแพร่กระจายตั้งแต่ทางตอนใต้ของฟลอริดา จนถึงพื้นที่ตอนเหนือของอาร์เจนตินา ระบาดไปทั่วเขตร้อนของโลกทุกทวีป ยกเว้นการระบาดเข้าไปในทวีปออสเตรเลีย ซึ่งเพิ่งจะพบเพียงเล็กน้อยในช่วงเวลาภายใน 10 ปีที่ผ่านมา

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้ล้มลุก สูง 1-2 เมตร ทรงพุ่ม แตกกิ่งก้านสาขามากมาย ลำต้นและกิ่งก้านปกคลุมด้วยขนอ่อนนุ่ม ใบเดี่ยวออกจากลำต้น ที่ข้อ แบบตรงกันข้าม รูปรีค่อนข้างเป็นสามเหลี่ยม ขอบใบหยัก ปลายใบแหลม ฐานใบกว้าง เรียวสอบเข้าหากัน สีเขียวอ่อน เส้นใบเห็นชัดเจน 3 เส้น มีขนปกคลุม ผิวใบทั้งสองด้าน ดอกเป็นช่อ สีขาว หรือฟ้าอมม่วง ดอกย่อย 10-35 ดอก ดอกวงนอกบานก่อน กลีบดอกหลอมรวมกันเป็นหลอด ผลขนาดเล็ก รูปร่างเป็นห้าเหลี่ยมสีน้ำตาล หรือดำ มีหนามแข็งบนเส้นของผล ส่วนปลายผลมีขนสีขาวช่วยพยุงให้ผล และเมล็ดปลิวตามลม

สำหรับสรรพคุณตามตำรายาไทย ใช้เป็นยาได้ทั้งต้น ใช้ ดอก เป็นยาแก้ร้อนใน กระหายน้ำ ชูกำลัง แก้อ่อนเพลีย บำรุงหัวใจ แก้ไข้

ใบ ใช้เป็นยารักษาแผลสด สมานแผล ถอนพิษแก้อักเสบ แก้พิษน้ำเหลือง แก้ตาฟาง แก้ตาแฉะ แก้ริดสีดวงทวารหนัก รักษาแผลเปื่อย เพราะใบของสาบเสือมีสาระสำคัญคือ กระอะนิสิก และฟลาโวนอยด์หลายชนิด เช่น ไอโซซากูรานิติน และโอโดราติน นอกจากนี้ ยังมีสารพวกน้ำมันหอมระเหย ซึ่งประกอบไปด้วย สารยูพาทอล คูมาริน โดยสารสำคัญเหล่านี้จะไปออกฤทธิ์ที่ผนังเส้นเลือดทำให้เส้นเลือดหดตัว และนอกจากนี้ ยังมีฤทธิ์ไปกระตุ้นสารที่ทำให้เลือดแข็งตัวได้เร็วขึ้น ทำให้สามารถห้ามเลือดได้

ต้น เป็นยาแก้ปวดท้อง ท้องขึ้น ท้องเฟ้อ แก้บวม ดูดหนอง

ทั้งต้น เป็นยาแก้บาดทะยัก

การแพร่กระจาย จะขึ้นทั่วไปทั้งในสภาพดินชื้น หรือแห้งในแหล่งปลูกพืชยืนต้น และที่รกร้างว่างเปล่า และตามที่มีแสงแดดมากๆ ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด เมื่ออากาศแล้งต้นสาบเสือจะออกดอก จึงใช้เป็นดรรชนีชี้วัดอุณหภูมิความแห้งแล้งของอากาศ

และดอกเมื่อนำมาขยี้จะมีกลิ่นแรงคล้ายสาบเสือ คนโบราณเมื่อเวลาพบเจอกับสัตว์ร้าย หนีเข้าดงสาบเสือก็จะปลอดภัย เพราะสัตว์จะไม่ได้กลิ่นคน จึงเป็นที่มาของชื่อสาบเสือ

อย่างไรก็ตาม เพจเฟซบุ๊กชื่อ วิถีชีวิต ได้โพสต์ให้ข้อมูลว่า สาบเสือถือเป็นวัชพืชนอกจากนำผลิตเจลแต้มสิว แล้วจากงานวิจัยของกรมวิชาการเกษตรยังพบว่าสามารถนำมาใช้ป้องกันกำจัดหนอนใยผัก หนอนกระทู้ เพลี้ยอ่อน ด้วงถั่วเขียวฆ่าเชื้อรา แบคทีเรีย และไวรัส สาเหตุโรคพืชได้อีกด้วย มีสารออกฤทธิ์ คือ limonene, pinene และ naphthoquinone มีวิธีการใช้ดังนี้

1) ต้นและใบ ผึ่งลมให้แห้ง บดเป็นผง แช่น้ำ 400 กรัม/น้ำ 3 ลิตร ถ้าใบอย่างเดียวใช้ 400 กรัม/น้ำ 8 ลิตร กวนตั้งทิ้งไว้ค้างคืน กรองเอากากออก นำมาฉีดพ่นทุก 7 วัน ป้องกันและไล่หนอนกระทู้ผัก หนอนใยผัก

2) นำต้นสาบเสือมา หมักด้วยเหล้าขาว 24 ชั่วโมง (500 กรัม/เหล้า 1 ลิตร) หมักค้างคืน กรองออกมานำไปพ่นป้องกันกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราและแบคทีเรีย และหนอนใยผัก

3) ใบสด 10 กรัมผสมกับใบแห้ง 30 กรัม บดให้ละเอียด แล้วนำมาคลุกถั่วเขียว 100 กรัม สามารถป้องกันกำจัดแมลงด้วยถั่วเขียว และมอดข้าวสาร

เรียบเรียง สยามนิวส์

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ