แม่สุดช้ำ เหมารถผู้ใหญ่บ้านไปโรงพักครั้งละ 600 พาลูกวัย 11 ขวบ แจ้งความถูกย่ำยี ตร.บอกออกเวรแล้วค่อยมาใหม่

แม่สุดช้ำ เหมารถผู้ใหญ่บ้านไปโรงพักครั้งละ 600 พาลูกวัย 11 ขวบ แจ้งความถูกย่ำยี ตร.บอกออกเวรแล้วค่อยมาใหม่

วันที่ 9 มิ.ย.67 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านหมู่บ้านหนึ่ง ที่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ว่าขอให้มาช่วยเหลือเดินเรื่องให้ เพราะไม่มีใครมาช่วยได้ ซ้ำยังเหมือนจะโดนขู่ ไม่ให้เอาผิดกับคนบ้านเดียวกันที่มาข่มขืนลูกสาววัย 11 ปี

น.ส.นุ้ย (นามสมมุติ)อายุ 47 ปี คนร้องทุกข์ เล่าว่า เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ลูกสาวตนอายุ 11 ปี มาบอกกับตนว่าเจ็บที่อวัยวะเพศ สอบถามลูกสาวว่าถูกใครกระทำลูกสาวบอกว่าไม่โดนอะไร ตนจึงไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าน่าเป็นเพราะอย่างอื่น

ต่อมาเมื่อวันที่ 19 เมษายน ตอนนั้นหมู่บ้านมีงานบุญ ได้มีภรรยานายไร ซึ่งมีบ้านติดกันกับตน อดีตสมาชิก อบต.ในพื้นที่โวยวายอยู่กองฟางหลังบ้านนายไร ดุด่า ด.ญ.เอ(นามสมมุติ)อายุ 11 ปี ลูกสาวของตัวเองว่า เธอทำแบบนี้ได้อย่างไรไม่สงสารป้าเหรอ เนื่องจากภรรยานายไร เห็นสามีกำลังจะพยายามข่มขืนลูกสาวตนอยู่ที่โรงเก็บฟางหลังบ้านนายไร

สุดท้ายเรื่องทั้งหมดถูกเปิดขึ้น ลูกสาวจึงกล้าเล่าว่าถูกนายไร ข่มขืนเมื่อวันที่ 11 และ 12 มีนาคม 2 ครั้งแต่ไม่กล้าบอกให้แม่เพราะนายไร ขู่จะฆ่าหากไปบอกให้ใครรู้

จากนั้นตนจึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.หนองกี่ อ.หนองกี่ เพื่อให้เอาผิดนายไร ตำรวจให้พาเด็กไปตรวจร่างกาย แพทย์ลงความเห็นเคยมีร่องรอยของการถูกกระทำ แต่ไม่พบคราบอสุจิ เพราะวันที่ 19 นายไร ยังข่มขืนไม่สำเร็จมีภรรยามาเห็นก่อน

หลังจากนั้นเป็นต้นมามีญาตินายไร มาเจรจาหลายครั้งบอกว่าให้ยอมความ จะจ่ายเงินสดให้ 10,000 บาท เพาะเขาคิดว่าเราเป็นคนจนแต่ตนไม่ยอม ไปเร่งคดีพนักงานสอบสวนก็ไม่เดินเรื่องให้ อ้างว่าออกเวรแล้ว ให้ไกล่เกลี่ยกันซะ ต่อมาญาตินายไร มายื่นข้อเสนอให้อีกจะขอจ่าย 50,000 บาทบอกว่า จะได้เงินสดๆนะ แต่ตนก็ไม่ยอม

สุดท้ายตำรวจนัดให้ไปให้ปากคำเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.เวลาประมาณ 09.00 น.ตนจึงขี่รถจักรยานยนต์พาลูกไปที่ สภ.หนองกี่ ไกลประมาณ 30 กม.ปรากฎว่าพนักงานสอบสวนบอกว่า ออกเวรแล้ว ค่อยมาใหม่

น.ส.นุ้ย เล่าด้วยว่ารู้สึกน้อยใจมากที่ตำรวจใช้คำว่า ออกเวรแล้ว ทั้งที่มาตามนัดเหมือนจงใจกลั่นแกล้ง ที่ผ่านมาเคยเหมารถผู้ใหญ่บ้านมาพบตำรวจครั้งละ 600 บาท แต่ครั้งนี้ไม่มีเงินจ้างจึงขี่รถจักรยานยนต์มากับลูกตามลำพัง

จึงอยากจะเรียกร้องขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้มาช่วยเหลือครอบครัวยากจนอย่างตน ตอนนี้สงสารลูกเพราะหลังวันที่ 19 เป็นต้นมาชาวบ้านในหมู่บ้านรวมถึงเพื่อนนักเรียนในโรงเรียนลูกสาวรู้เรื่องทั้งหมด ถูกเพื่อนบูลลี่ประจำว่า โดนไหม จนไม่อยากจะไปโรงเรียน ยิ่งกว่านั้นลูกสาวจะผวาทุกครั้งเมื่อได้ยินเสียงรถยนต์ของนายไร ที่ข่มขืนเพราะกลัว หลายครั้งต้องพาลูกสาวไปนอนบ้านญาติต่างหมู่บ้าน เพื่อบรรเทาความรู้สึกลูกสาว

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดบุรีรัมย์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ