รวบอดีตลูกจ้างหน่วยงานรัฐ เปิดเต็นท์ ทำโปรฯพาลูกค้าออกรถ แถมหมายจับอีกเพียบ

รวบอดีตลูกจ้างหน่วยงานรัฐ เปิดเต็นท์ ทำโปรฯพาลูกค้าออกรถ แถมหมายจับอีกเพียบ

วันที่ 7 มิ.ย. 2567 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา จำนวน 29 คน จำนวน 59 หมาย น.ส.ทิพย์นิดาหรือก้อยฯ อายุ 41 ปี กับพวกรวม 29 คน ตามหมายจับศาลอาญา โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม, ร่วมกันปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม สามารถจับกุมได้ที่ บ้านพักในพื้นที่ ม.10 ต.โคกสูง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2566 ผู้เสียหายตัวแทนจากธนาคารเกียรตินาคิน เข้าพบพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. แจ้งความร้องทุกข์ว่า มีคนร้ายนำเอกสารปลอมมายื่นขอสินเชื่อรถยนต์กับทางบริษัทฯ จนหลงเชื่อ และอนุมัติสินเชื่อให้แก่คนร้ายไป ต่อมาภายหลังปรากฏว่า คนร้ายได้ค้างชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์ที่ทางผู้เสียหายได้อนุมัติสินเชื่อไปจำนวนหลายคัน ทางผู้เสียหายจึงต้องมีการติดตามรถยนต์คืน และทำการตรวจสอบเอกสารของผู้เช่าซื้อรถ พบว่ามีผู้เช่าซื้อจำนวน 34 ราย ที่มีการใช้เอกสารปลอมมายื่นขอสินเชื่อจนเป็นเหตุให้บริษัทฯ ได้รับความเสียหาย มูลค่ารวมกว่า 20 ล้านบาท

ต่อมา พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ต.อาธิรัตน์ ทิพย์เจริญ สว.กก.3 บก.ป. ดำเนินการสืบสวน จนทราบว่า เมื่อประมาณต้นเดือน สิงหาคม 2565 น.ส.ทิพย์นิดาหรือก้อย ประกอบอาชีพค้าขายรถยนต์มือสอง ตั้งอยู่ที่ ต.โคกสูง อ.เมือง จ.นครราชสีมา และยังเป็นดีลเลอร์กับเต็นท์ใหญ่ ในเมืองนครราชสีมา

อดีตเคยเป็นพนักงานลูกจ้างชั่วคราวการเงินและงบประมาณของหน่วยงานราชการ มีความรู้เรื่องการทำหนังสือเอกสารเป็นอย่างดี ได้ร่วมกันกับผู้เช่าซื้อ ทำเอกสารปลอม และนำเอกสารปลอมไปใช้แสดงต่อธนาคาร เพื่อให้ธนาคารอนุมัติสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ โดยเริ่มจากกลุ่มลูกค้าผู้เช่าซื้อ เป็นบุคคลธรรมดา ที่มีความต้องการซื้อรถยนต์ เข้าติดต่อมาทางเพจเฟซบุ๊กที่ น.ส.ทิพย์นิดาหรือก้อย และมีการนัดหมายผู้เช่าซื้อ มาเลือกดูรถยนต์รุ่นที่ตนเองสนใจ

โดย น.ส.ทิพย์นิดา หรือก้อย การันตีว่าสามารถออกรถให้ได้ โดยจะจัดทำหนังสือรับรองเงินเดือนปลอม และรายการเดินบัญชีธนาคารปลอม ให้สอดคล้องกับรายการรับเงินเดือนของผู้เช่าซื้อ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือว่าผู้เช่าซื้อมีคุณลักษณะตรงตามหลักเกณฑ์ มีอาชีพหลักจริงและรายได้เพียงพอที่จะสามารถผ่อนชำระค่างวดให้กับธนาคารผู้เสียหายได้ ก่อนนำเอกสารข้างต้นยื่นต่อธนาคารผู้เสียหาย และอนุมัติสินเชื่อเช่าซื้อรถตามคำขอของผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้เช่าซื้อแต่ละราย จากนั้นได้โอนเงินชำระค่ารถยนต์ตามสัญญาเช่าซื้อให้กับเต็นท์รถยนต์ เป็นเหตุให้ผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้เช่าซื้อแต่ละรายได้รถยนต์ตามสัญญาเช่าซื้อไป

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจฯ ได้ตรวจสอบไปยังหน่วยงานราชการที่ออกหนังสือรับรอง พบว่าเป็นเอกสารที่ทำการปลอมขึ้นทั้งหมด และยังพบว่าผู้เช่าซื้อทั้งหมดไม่ใช่เจ้าหน้าที่ราชการ นอกจากนี้พบเจ้าหน้าที่ ที่คอยรับสายโทรศัพท์จากธนาคาร เพื่อรับรองสถานะของผู้เช่าซื้อว่าเป็นพนักงานราชการจริง น่าเชื่อว่ามีส่วนรู้เห็นในขบวนการนี้อีกด้วย ซึ่งมีผู้เช่าซื้อบางรายหลังจากได้รับรถไปแล้ว ไม่ชำระค่างวดรถ ทำการเปลี่ยนป้ายทะเบียน หลบหลีกไฟแนนซ์ หรือบางรายก็ได้ขายรถที่เช่าซื้อไปแล้ว

ตรวจสอบรายชื่อกลุ่มผู้เช่าซื้อ ในช่วงระยะเวลา 5 เดือน พบความผิดปกติว่า ผู้เช่าซื้อมีที่ทำงานเดียวกัน สามารถออกรถได้ถึง 34 คัน บางรายเปิดบัญชีธนาคารมาไม่ถึงเดือน แต่มีรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญา และศาลอาญาอนุมัติ หมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 37 คน จำนวน 67 หมายจับ

ต่อมา วันที่ 6 มิ.ย.67 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับ บก.ปคม., บก.ทล. และชุดปราบปรามโจรกรรมรถ บช.ก. เปิดปฏิบัติการ ทลายขบวนการเต็นท์รถ ปลอมเอกสารหลอกกู้ไฟแนนซ์รถยนต์ นำกำลังกว่า 240 นาย ตรวจค้น 26 จุด ในพื้นที่ 6 จังหวัดทั่วประเทศ อาทิ นครราชสีมา, บุรีรัมย์, ชัยภูมิ, ปทุมธานี เป็นต้น นำหมายเข้าจับกุมตัว น.ส.ทิพย์นิดาหรือก้อย ได้ที่บ้านพักในพื้นที่ ม.10 ต.โคกสูง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา

จากการเข้าตรวจค้นห้องพบหลักฐาน คอมพิวเตอร์, โน๊ตบุ๊ค, โทรศัพท์มือถือ, สัญญาการเช่าซื้อ พร้อมสำเนาคู่มือ, รายการเดินบัญชีเช่าซื้อรถยนต์ เป็นเอกสารเกี่ยวกับการทำเอกสารรถหลายรายการ, แผ่นป้ายทะเบียนที่บ้าน จำนวน 80 ป้าย พบ 8 ป้าย เป็นป้ายทะเบียนปลอม ทั้งนี้ได้จับกุมผู้ต้องหา พร้อมพวกได้ จำนวน 29 คน ตรวจยึดรถยนต์ รวมจำนวน 24 คัน จากนั้นนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาที่เป็นผู้เช่าซื้อ บางส่วนให้การว่าได้ติดต่อเช่าซื้อรถกับ น.ส.ทิพย์นิดาหรือก้อยฯ และให้เป็นผู้ดำเนินการทางเอกสารให้ทั้งหมด, บางรายทราบว่าเอกสารที่ทำเป็นเอกสารที่ปลอมทั้งหมด และบางส่วนปฏิเสธ เนื่องจากไม่รู้ว่าเป็นเอกสารปลอมมีหน้าที่ลงลายมือชื่อตามคำบอกของ น.ส.ทิพย์นิดาฯ ในส่วนของ น.ส.ทิพย์นิดาฯ เอง ยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ