ตาและยาย ไม่เชื่อใจธนาคารซ่อนเงินสด 8 ล้านในบ้าน รู้ตัวอีกทีหายเกลี้ยง เห็นที่ซ่อน ตร.ยังกุมขมับ (ตปท.)

ตาและยาย ไม่เชื่อใจธนาคารซ่อนเงินสด 8 ล้านในบ้าน รู้ตัวอีกทีหายเกลี้ยง เห็นที่ซ่อน ตร.ยังกุมขมับ (ตปท.)

เมื่อไม่นานมานี้ เว็บไซต์ต่างประเทศรายงานว่า ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ในช่วงเย็นวันหนึ่งคู่รักสูงวัยในเมืองหยิงโข่ว มณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน ได้แจ้งตำรวจอย่างตื่นตระหนกว่า บ้านของพวกเขาถูกขโมยรื้อค้น และหอบเงินสดไปทั้งหมด ในขณะที่เจ้าหน้าที่เมื่อรู้จำนวนเงินที่หายไป ก็อดประหลาดใจไม่ได้เพราะไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ผู้เฒ่าสองคนจะเก็บเงินสดมหาศาลขนาดนี้ไว้ในบ้าน

ตามรายงานระบุว่า คุณหลิวได้มีการให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ว่า เขาและภรรยาใช้ชีวิตอย่างประหยัด ดิ้นรนจนมีทุนเพียงเล็กน้อย จึงเปิดซูเปอร์มาร์เก็ตเล็กๆ ในละแวกบ้าน แม้ว่าจะไม่ใช่ธุรกิจขนาดใหญ่ แต่ก็ช่วยให้ทั้งคู่มีเงินไว้ใช้จ่ายยามแก่ตัว เขามอบเงินทั้งหมดที่หามาให้กับภรรยาเก็บไว้ เมื่อถึงเวลาเกิดเหตุพวกเขาสะสมเงินได้ทั้งสิ้น 1.62 ล้านหยวน (มากกว่า 8 ล้านบาท)

พวกเขารู้สึก ไม่ปลอดภัย ที่จะฝากเงินไว้กับทางธนาคาร คู่รักวัย 60 จึงตัดสินใจซ่อนเงินทั้งหมดที่สะสมมาทั้งชีวิตไว้ ใต้เตียง ในห้องนอน เพราะคิดว่าเตียงที่ออกแบบมาอย่างพิเศษ มีช่องลิ้นชักขนาดใหน่ซ่อนอยู่ใต้ฟูกนั้น จะเป็นที่ซ่อนที่สมบูรณ์แบบซึ่งไม่มีใครสามารถค้นพบได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องราวกับไม่เป็นเช่นนั้น

ในวันเกิดเหตุ หลังอาหารเย็นคุณหลิวและภรรยาก็ยังคงออกไปเดินเล่นตามปกติ โดยที่เพียงปิดประตูบ้านเอาไว้ แต่ไม่ได้ล็อก ซึ่งนำไปสู่เหตุการณ์ที่น่าเศร้าข้างต้น หลังจากกลับจากการเดินเล่น ทั้งต่างตกใจอย่างมากเมื่อพบว่าบ้านถูก ลิ้นชักและตู้ทั้งหมดในบ้านถูกทำลาย เฟอร์นิเจอร์กระจัดกระจาย รวมทั้งเตียงในห้องนอนด้วย เมื่อตระหนักถึงความร้ายแรงของเหตุการณ์จึงรีบโทรแจ้งตำรวจ ซึ่งแม้แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังตกใจกับจำนวนเงินสดมหาศาลนี้

เมื่อมาถึงบ้านของผู้เสียหาย ตำรวจพยายามค้นหาเบาะแสในที่เกิดเหตุ พวกเขาพบรอยเท้าเล็กๆ ในโถงทางเดิน และยังพบลายนิ้วมือที่ไม่สมบูรณ์ซึ่งผู้ต้องสงสัยทิ้งไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อค้นหาเบาะแสเพิ่มเติม ยังได้เคาะประตูบ้านย่านที่อยู่อาศัยใกล้เคียงทั้งหมด จากตรงนี้ได้ตรวจกล้องและพบชายลึกลับ 2 คน ดูเหมือนถือถุงแปลกๆ ที่มีน้ำหนักมาก เมื่อคู่สามีภรรยาถุงดังกล่าวเห็นก็ตะโกนเสียงดังว่า นั่นคือผ้าปูที่นอนของเรา

หลังจากยืนยันว่าคนสองคนในภาพเป็นผู้ต้องสงสัย ตำรวจจึงได้จัดตั้งกองกำลังพิเศษขึ้นเพื่อติดตามตัวคนทั้งสองในทันทีอย่างไรก็ตาม เนื่องจากปิดบังใบหน้าระหว่างก่อเหตุ การระบุตัวตนของพวกเขาจึงกลายเป็นเรื่องยาก ระหว่างนี้ตำรวจยังได้ประสานไปยังธนาคารในเมืองอีก 13 แห่ง เพื่อรอให้หัวขโมยดำเนินการธุรกรรมทางการเงิน แต่หลายวันผ่านไปก็ยังไม่มีเบาะแสที่เป็นประโยชน์

ในเวลานี้ตำรวจไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องติดประกาศแจ้งเบาะแสให้ทั่วเมือง โชคดีที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในเมือง จดจำใบหน้าผู้ต้องสงสัยได้ 1 ใน 2 รายได้ จึงได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นชายวัย 40 ปี จากประวัติเคยถูกตัดสินจำคุก 9 ปีในข้อหาลักทรัพย์ ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำในปี 2546 และแม้จะผ่านมา 12 ปีแล้ว แต่เขาก็ยังคง "คุ้นเคยกับวิถีเก่า" และก่ออาชญากรรมต่อไป

ทันทีหลังจากระบุตัวผู้ต้องสงสัยได้ ตำรวจก็เริ่มติดตามและจับกุมชายวัย 40 คนนี้ได้ที่มองโกเลียใน หลังจากนั้นไม่นาน ตัวตนของผู้สมรู้ร่วมคิดก็ถูกเปิดเผยเช่นกัน ซึ่งพบว่าเราหลานชายของเขานั้นเอง และถูกจับกุมในอีกหนึ่งวันต่อมาที่เมืองเหลียวหนิง อย่างไรก็ดี ตำรวจสามารถยึดเงินคืนมาได้เพียง รวม 1.35 ล้านหยวน (ประมาณ 6.9 ล้านบาท) และรถยนต์มูลค่า150,000 หยวน (ประมาณ 7.7 แสนบาท) ส่วนที่เหลือถูกพวกเขาใช้จ่ายไปก่อนหน้าแล้ว

ที่สถานีตำรวจ ผู้ต้องหาทั้งสองรับสารภาพว่าได้เดินเตร่ไปทั่วละแวกบ้านของคุณหลิวมาสักพักแล้วเพื่อหา เหยื่อ หลังจากบังเอิญพบว่าคุณหลิวและภรรยาออกไปข้างนอกโดยไม่ได้ล็อกประตู ก็รีบย่องเข้าไปในบ้านและเริ่มค้นหาสิ่งของ ในขณะที่ทำลายเฟอร์นิเจอร์ก็บังเอิญค้นพบลิ้นชักลับใต้เตียง จึงตัดสินใจขโมยเงินทั้งหมดมา

สุดท้ายหัวขโมยทั้งสองถูกตัดสินจำคุก 10 ปี ฐานลักทรัพย์ ในขณะที่คุณหลิวและภรรยา ก็ไม่กล้าซ่อนเงินไว้ที่บ้านอีกต่อไปแต่รีบนำเงินไปฝากธนาคารอย่างรวดเร็ว

ขอบคุณข้อมูล soha

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ