ตำรวจไซเบอร์รวบมือผลิตลำกล้องปืนเถื่อน โพสต์ยูทูปส่งขายออนไลน์ ใช้กระสุนจริงได้กับแบลงก์กัน

ตำรวจไซเบอร์รวบมือผลิตลำกล้องปืนเถื่อน โพสต์ยูทูปส่งขายออนไลน์ ใช้กระสุนจริงได้กับแบลงก์กัน

สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ตำรวจไซเบอร์ดำเนินการตามมาตรการรัฐบาลและนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเข้มงวดและกวดขันการกระทำผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน ผิดกฎหมายบนสื่อโซเชียลมีเดีย จนกระทั่งสืบสวนพบบัญชีผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน YouTube ใช้ชื่อว่า เทพไทย มีผู้ติดตามกว่าจำนวน 5.78 พันคนมีพฤติกรรมขายลำกล้องและอาวุธปืนแบลงก์กัน ซึ่งสามารถใช้กับกระสุนปืนจริงได้

จากข้อมูลพบว่าบัญชีดังกล่าวได้ลักลอบขายลำกล้องปืนหลาวขนาด เช่น 9 มม., .380, 7.65, .32, .357, .38 เป็นต้น พร้อมลงวิดีโอคลิปสาธิตการใช้อาวุธปืนแบลงก์กันด้วย (จากการตรวจสอบลักษณะอาวุธปืนดังกล่าวเบื้องต้นแล้ว พบว่าเป็นอาวุธปืนที่ไม่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายจากเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน)

ต่อมา พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าว จนสามารถขออำนาจศาลออกหมายค้นและหมายจับเจ้าของบัญชียูทูปดังกล่าวได้ และได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.พร้อมพล นิตย์วิบูลย์ สว.กก.2 บก.สอท.4 เป็นหัวหน้าชุดนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นจับกุม

กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.6 ต.โพนเมือง อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด พบ นายอดิศักดิ์ หรือ เอส อายุ 25 ปี เจ้าของบัญชียูทูปดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ของศาลอาญา ที่ 2312/2567 จากการตรวจค้นบ้านพัก พบอุปกรณ์ในการผลิตลำกล้องอาวุธปืน อาทิเช่น เครื่องตัดเหล็ก สว่านเจาะลำกล้อง เหล็กที่ใช้ทำลำกล้องอาวุธปืน และอุปกรณ์ต่างๆ รวมจำนวน 12 รายการ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต ส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.สอท.4 ดำเนินคดีตามกฎหมาย

เบื้องต้น นายเอส (ผู้ต้องหา) รับสารภาพว่าตนเองได้ผลิตลำกล้องอาวุธปืนขายจริง โดยเรียนรู้วิธีการทำต่างๆจากวิดีโอคลิปในยูทูป โดยลูกค้าส่วนใหญ่สามารถสั่งทำลำกล้องอาวุธปืนผ่านนายหน้าที่ใช้ชื่อไลน์ว่า เทพไทย ซึ่งตนเองก็ไม่เคยเจอตัวจริงหรือเคยเห็นหน้า โดยนายหน้าจะสั่งให้ตนเองผลิตลำกล้องอาวุธปืนแล้วส่งให้ลูกค้าทางบริษัทขนส่งเอกชนอีกทีหนึ่ง ซึ่งตนเองขายลำกล้องที่ผลิตในราคาลำกล้องละ 1,850 บาท ซึ่งลูกค้าที่สั่งซื้อสามารถนำไปประกอบกับสิ่งเทียมอาวุธปืน (ปืนแบลงก์กัน ) ให้สามารถยิงกับลูกกระสุนจริงได้ ซึ่งตนเองได้ผลิตขายมากว่า 2 ปีแล้ว อีกทั้ง ตนเองยังเคยถูกจับกุมในข้อหา ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนมาแล้ว 1 ครั้ง และครั้งนี้ก็ถูกจับเป็นครั้งที่ 2

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ